3 Highlight timepieces of GRAND SEIKO

ในโอกาสที่ GRAND SEIKO จัดงาน The World of GRAND SEIKO เพื่อฉลองการครบรอบ 25 ปี GRAND SEIKO 9S Caliber พร้อมการเปิดตัว GRAND SEIKO Pop Up Store ณ คิงเพาเวอร์รางน้ำ ในคอนเซ็ปท์ Alive in Time พร้อมนำเสนอเรือนเวลาพิเศษ 3 เรือนที่มีดีไซน์งดงามเหนือกาลเวลา ผ่านความประณีตของคราฟส์แมนชิพแบบญี่ปุ่น ที่ผสานนวัตกรรมสุดล้ำ จนกลายเป็นเรือนเวลาที่เที่ยงตรง ซึ่งเป็นหัวใจหลักของแบรนด์ รวมไปถึงการออกแบบหน้าปัด ที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติรอบสตูดิโอชิสุกุอิชิ สถานที่ที่นาฬิกากลไกจักรกลของ GRAND SEIKO ทุกเรือนถูกรังสรรค์ขึ้น

 

Screen Shot 2566 06 08 at 09.02.46

 

อย่างเช่น GRAND SEIKO Evolution 9 Collection, Tentagraph, Ref. SLGC001 นาฬิกาสปอร์ตที่เพิ่งเปิดตัวไปที่งานแสดงนาฬิกา Watches and Wonders, Geneva 2023 โดยทำงานด้วยกลไกโครโนกราฟจับเวลาคาลิเบอร์ 9SC5 ชนิดจักรกลแบบแรกในความถี่ระดับ 10 บีทและสามารถให้พลังสำรองลานได้นานถึง 3 วัน ซึ่งยาวนานที่สุดในอุตสาหกรรมนาฬิกาในปัจจุบัน ในดีไซน์สปอร์ตที่ได้รับการปรับปรุงอย่างสมบูรณ์แบบ สำหรับลักษณะการใช้งานที่มีการเคลื่อนไหวอยู่เสมอ พร้อมการอ่านค่าที่ง่ายแม้ในขณะเคลื่อนไหวภายใต้แนวคิด Gifts from nature, Feel the real nature on your wrist

 

Screen Shot 2566 06 08 at 09.05.39

 

โดยมีตัวเรือนและสายที่ผลิตขึ้น จากวัสดุไทเทเนียมพิเศษชนิดความหนาแน่นสูง ซึ่งมีคุณสมบัตที่ทั้งเบาและต้านทานต่อการขีดข่วน ได้มากกว่าสตีลถึงประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ พร้อมขอบตัวเรือนที่สร้างขึ้นจากวัสดุ เซรามิคที่มีความสามารถในการต้านทานต่อการขีดข่วนได้ดี ในรูปแบบหน้าปัดของนาฬิกาที่สะท้อนความยิ่งใหญ่ของภูเขาอิวาเตะ ยอดเขาสูงตระหง่านที่สามารถมองเห็นได้จากสตูดิโอชิสุกุอิชิ ของ GRAND SEIKO ซึ่งสอดคล้องกับหลักการออกแบบของแบรนด์ โดยนาฬิการุ่น Tentagraph นี้ จะมีราคาจำหน่ายในประเทศไทยที่ 557,500 บาท และเริ่มวางจำหน่ายแล้ว

 

SLGC001 soldier

 

ส่วนอีกหนึ่งรุ่นไฮไลท์นั่นก็คือ GRAND SEIKO Evolution 9 Collection, White Birch, Ref.SLGH005 นาฬิกากลไกความถี่สูงที่ทำงานด้วยกลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติคาลิเบอร์ 9SA5 ที่มีความเที่ยงตรงสูงในระดับ +5 ถึง -3 วินาทีต่อวัน มาพร้อมกับดีไซน์ที่สะท้อนมุมมอง Alive in Time โดยการันตีจากการได้รับถึง 2 รางวัลระดับโลกทั้ง GPHG ประเภท Men Watch Prize 2021 และประเภท Best of the Best ในสาขา Product Design จาก RED DOT Design Award 2022 จากความโดดเด่นด้วยดีไซน์เรียบง่าย แต่งดงามในแบบฉบับของ GRAND SEIKO Evolution 9 Style ที่เน้นวิวัฒนาการของความงดงาม

 

Screen Shot 2566 06 08 at 09.20.19

 

รวมทั้งการตีความใหม่สู่ดีไซน์ที่เต็มไปด้วยดีเทลทั้งในเรื่องแสงและเงา ผนวกกับการปรับขาตัวเรือนให้เข้ากับรูปลักษณ์ วัสดุที่ใช้ และการตกแต่งให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ นอกจากนี้ยังมีการตกแต่งกระจกและแฮร์ไลน์บนตัวเรือน ในขณะเดียวกันก็มีความชัดเจนในการอ่านค่าอันเป็นสิ่งที่ GRAND SEIKO ให้ความสำคัญมาตลอด โดยหน้าปัดของนาฬิการุ่น White Birch นี้จะมีลายผิวแบบเบิร์ชสีขาวที่โดดเด่น รวมความมีชีวิตชีวาของป่าต้นเบิร์ชสีขาว ที่อยู่ใกล้กับสตูดิโอชิสุกุอิชิ เข้ากับการดีไซน์ปลายของเข็มนาที และเข็มวินาทีให้มีลักษณะแนวโค้ง เพื่อให้อ่านค่าได้ชัดเจนเมื่อมองจากมุมทแยง

SLGH005 soldier

นอกจากนี้ยังแสดงความสะดวกสบาย ในการสวมใส่ด้วยการนำคาลิเบอร์9SA5ซึ่งมีขนาดบางกว่ากลไก 9S คาลิเบอร์รุ่นก่อนมาใช้ ช่วยทำให้ตัวเรือนมีความบางและสายข้อมือ มีความกว้างและความหนาที่เหมาะสม โดยแต่ละข้อต่อของสายจะสั้นลงอีก 1 มิลลิเมตร เพื่อให้สามารถงอและเข้ากับข้อมือ เพื่อให้สามารถสวมใส่ได้อย่างสบายยิ่งขึ้น โดยนาฬิการุ่นนี้จะมีราคาจำหน่ายในประเทศไทยที่ 321,000 บาท ส่วนนาฬิการุ่นสุดท้ายคือ GRAND SEIKO Kodo Constant-force Tourbillon สุดยอดความงดงามแห่งการรังสรรค์ ที่เหล่าคนรักนาฬิกาอยากครอบครอง ซึ่งผลิตขึ้นเพียง 20 เรือนทั่วโลกเท่านั้น

 

Screen Shot 2566 06 08 at 09.24.28

 

โดดเด่นด้วยดีไซน์หน้าปัดแบบเปลือย และเป็นนาฬิการุ่นแรกของแบรนด์ที่รวม ชุดคอนสแตนท์-ฟอร์ซและตูร์บิยองเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งเป็นมากกว่าความสำเร็จทางเทคนิคทั่วไป เพราะเป็นการมอบระดับความแม่นยำที่สูงขึ้น เป็นพิเศษพร้อมกับค่าความเสถียร โดยได้รับการยอมรับจากคณะกรรมการตัดสินของ GPHG (Grand Prix d’Horlogerie de Genève) ประจำปี 2022 ด้วยรางวัล Chronométrieโดย Kodo ซึ่งเป็นคำในภาษาญี่ปุ่นที่หมายถึงการเต้นของหัวใจเรือนนี้ จะมีราคาจำหน่ายโดยประมาณในประเทศไทยที่ 14,560,000 บาท โดยผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดเพียง 20 เรือนทั่วโลก และจำหน่ายหมดไปแล้วในขณะนี้

 

1 SLGT003 2 cmyk retouched 2 20220304

 

 

Screen Shot 2566 06 08 at 09.34.36