GRAND SEIKO, Sport Collection, Ref. SBGC253

ปี 2019 GRAND SEIKO มีการเปิดตัวนาฬิกาสปอร์ตดีไซน์ใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสิงโต ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์นับตั้งแต่การเปิดตัวนาฬิกา GRAND SEIKO เป็นครั้งแรกขึ้นในปี 1960 ด้วยดีไซน์ซีรี่ส์ใหม่ที่ได้นำความล้ำหน้าพร้อมความแตกต่างมาสู่นาฬิกาสปอร์ตของ GRAND SEIKO กับเหลี่ยมมุมที่เฉียบคมตลอดจนตัวเรือนที่แข็งแกร่ง และล่าสุดนี้ นาฬิกากลไกสปริงไดรฟ์โครโนกราฟจีเอ็มทีดีไซน์ทรงพลังนี้ จึงได้ร่วมเป็นอีกหนึ่งในนาฬิกาคอลเลคชั่นสปอร์ตของ GRAND SEIKO เป็นครั้งแรก
 

Screen Shot 2566 02 15 at 13.33.06

 

จากสิงโตที่ถือเป็นดั่งสัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงจุดมุ่งหมายของคณะทำงานของ GRAND SEIKO ในรุ่นแรก ที่มุ่งมั่นสร้างเรือนเวลาที่ดีที่สุดเท่าที่พวกเขาจะสามารถทำได้ ทั้งในแง่ของความแม่นยำ ความทนทาน และความสวยงาม ซึ่งปรากฏให้เห็นในหลายรูปแบบบนนาฬิกาตั้งแต่ ตัวเรือนที่แข็งแกร่งและมีเหลี่ยมมุมดุจกรงเล็บ ขาตัวเรือนปัดลายเส้นแบบแฮร์ไลน์ ที่สร้างความโดดเด่นจากพื้นผิวที่ถูกขัดเงาด้วยเทคนิคซารัทสึ และลวดลาย “แผงคอสิงโต” อันละเอียดอ่อนของผิวหน้าปัดที่สงวนไว้เฉพาะกับตัวเรือนนี้เท่านั้น

 

Screen Shot 2566 02 15 at 13.34.30

 

ด้วยความงามและความแข็งแกร่งของสิงโต ที่ถูกถ่ายทอดผ่านลวดลายบนพื้นผิวสีขาวงาช้างของหน้าปั ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและทำให้รู้สึกถึงพลังได้ในทันที ด้วยการสะท้อนแสงจากทุกมุมอันก่อให้เกิดความสว่างที่เงียบสงบ ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่โดดเด่นของนาฬิกา GRAND SEIKO เพื่อให้เกิดเป็นผลงานดีไซน์สุดสร้างสรรค์ ในการยกระดับประสิทธิภาพของนาฬิกาสปอร์ตจาก GRAND SEIKO ให้เหนือชั้นยิ่งขึ้น พร้อมการทำงานของชุดกลไกอันเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ ความทนทาน และความไว้วางใจได้ในระดับสูงสุด

 

Screen Shot 2566 02 15 at 13.35.38

 

จึงทำให้นาฬิการุ่นนี้มีความสามารถในการกันน้ำได้ถึง 20 บาร์ เพื่อให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับกิจกรรมกีฬาทุกประเภท โดยเข็มชั่วโมงและเข็มนาทีถูกออกแบบให้อ่านค่าเวลาได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ตลอดจนหลักชั่วโมงที่มีขนาดกว้าง ที่ช่วยเสริมความชัดเจนให้สามารถอ่านค่าเวลาได้ในทันที โดยตัวเรือนและสายถูกสร้างขึ้นจากไทเทเนียมชนิดความหนาแน่นสูง ที่มีน้ำหนักเบากว่าสตีลทั่วไปถึงประมาณ 30% อีกทั้งยังมีสีที่สว่างกว่า นอกจากนี้นาฬิกายังสามารถวางตัวอยู่บนข้อมือได้อย่างง่ายดายและสวยงาม

 

Screen Shot 2566 02 15 at 13.34.48

 

ด้วยแนวโค้งของขาตัวเรือนและการมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ โดยสายนาฬิกาถูกออกแบบมาด้วยข้อรูปทรงอักษร H ชิ้นหนา เพื่อให้สวมใส่สบายและโอบรัดรอบทุกขนาดข้อมือได้เป็นอย่างดี พร้อมประสิทธิภาพของกลไกสปริงไดรฟ์โครโนกราฟจีเอ็มทีคาลิเบอร์ 9R86 ที่ให้ความแม่นยำสูงถึง +/-15 วินาทีต่อเดือน พร้อมความสามารถในการจับเวลาได้นานสูงสุดถึง 12 ชั่วโมง และมีพลังสำรองลานนานถึง 72 ชั่วโมงเมื่อขึ้นลานจนสุด โดยจะแสดงให้ทราบบนมาตรที่อยู่ถัดจากหลักชั่วโมง ณ ตำแหน่ง 8 นาฬิกา

 

Screen Shot 2566 02 15 at 13.33.28

 

กับตัวเรือนขนาด 44.5 มิลลิเมตร หนา 16.8 มิลลิเมตร ใช้งานคู่กับชุดล็อคแบบบานพับ 3 ทบที่ปลดล็อคด้วยปุ่มกด พร้อมล็อคนิรภัยและชุดปรับขยายสาย กรุทั้งด้านหน้าและหลังด้วยกระจกแซพไฟร์ชนิดผิวโค้งทั้ง 2 ฝั่ง พร้อมเคลือบกันแสงสะท้อน และมีเม็ดมะยมแบบขันเกลียว เพื่อความสามารถในการกันน้ำ และความสามารถในการต้านทานแม่เหล็กที่ระดับ 4,800 แอมแปร์/เมตร โดยนาฬิกาเรือนนี้จะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนมีนาคม 2023 ที่บูติคนาฬิกา GRAND SEIKO และตัวแทนจำหน่ายบางแห่งทั่วโลก โดยจะมีราคาจำหน่ายในยุโรปที่ 13,400 ยูโร และสามารถชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.grand-seiko.com/global-en/collections/sbgc253g

 

Screen Shot 2566 02 15 at 13.34.02

 

 

 

Screen Shot 2566 02 15 at 13.43.06