ฉลองครบรอบ 55 ปี 44GS ผู้บัญญัติหลักการออกแบบ GRAND SEIKO Style

เป็นเวลา 55 ปีล่วงมาแล้วนับตั้งแต่เรือนเวลา Grand Seiko แบบ 44GS ถือกำเนิดขึ้นในปี 1967 ด้วยแนวคิดที่ต้องการสร้างเรือนเวลาชั้นเลิศ ซึ่งสามารถเปล่งประกายความงดงามแห่งคุณภาพให้เป็นที่ประจักษ์โดยทั่วกัน และนำพา GRAND SEIKO ขึ้นสู่การเป็นเรือนเวลาระดับหรูของโลกให้จงได้ ดังนั้นความสวยงามแห่งแสงและเงา อันเป็นสุนทรียภาพทางการออกแบบของชาวญี่ปุ่นจึงถูกนำมาใช้เป็นสารตั้งต้น ตามหลักการออกแบบ 3 ประการ คือ

 

Screen Shot 2565 03 21 at 23.13.58

1. ต้องมีพื้นผิวราบเรียบและมีส่วนโค้งแบบ 2 มิติ 

 

Screen Shot 2565 03 21 at 23.14.05

2. ผิวราบของตัวเรือน หน้าปัด และเข็ม ต้องมีแนวแผ่กว้างที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

 

Screen Shot 2565 03 21 at 23.25.26

3. ต้องมีผิวเงางามที่ปราศจากการบิดเบือนของภาพสะท้อนดุจกระจกเงาชั้นดี

 

ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ บัญญัติแห่งแนวทางการออกแบบที่เรียกว่า “GRAND SEIKO Style” ส่วนตัวเลข 44 อันเป็นที่มาของชื่อรุ่น 44GS นั้นได้มาจากตัวเลข 2 หลักแรกของกลไกอินเฮ้าส์คาลิเบอร์ 4420 ซึ่งเป็นคาลิเบอร์ที่ใช้ขับเคลื่อนเรือนเวลารุ่นนี้

 

Screen Shot 2565 03 21 at 23.15.19

 

แนวทางดีไซน์แบบ GRAND SEIKO Style ที่ 44GS บัญญัติไว้ได้กลายเป็นหลักการสำคัญในการออกแบบเรือนเวลา GRAND SEIKO รุ่นต่างๆ เสมอมา โดยมีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดไปตามยุคสมัยที่ล่วงผ่าน ทั้งยังงดงามยิ่งขึ้นด้วยเทคนิคการตกแต่งชั้นสูงที่นำมาใช้ เช่นการขัดเงาแบบ “ซารัทสึ” อันเป็นเทคนิคการขัดเงาอย่างพิถีพิถันด้วยมือ จนเกิดพื้นผิวที่เรียบเนียนงดงามไร้การบิดเบือนของภาพสะท้อนดุจกระจกเงาชั้นเลิศ เป็นต้น

 

Screen Shot 2565 03 21 at 23.16.04

 

Screen Shot 2565 03 21 at 23.16.22

ใน 2013 GRAND SEIKO ได้นำรูปแบบดีไซน์ของ 44GS กลับมาสร้างขึ้นใหม่ถึง 2 ลักษณะด้วยกันคือ 44GS ในรูปแบบดั้งเดิมซึ่งเป็นการสร้าง 44GS รุ่นต้นฉบับขึ้นมาใหม่ในฐานะเรือนเวลาแบบลิมิเต็ด เอดิชั่น เพื่อแสดงความเคารพแก่ต้นกำเนิด หากแต่ขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลานคาลิเบอร์ 9S64 อันเป็นคาลิเบอร์ในยุคปัจจุบัน และ 44GS ในรูปแบบสมัยใหม่ที่นำดีไซน์ของรุ่นต้นกำเนิด มาปรับให้ดูทันสมัยและทำงานด้วยกลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติคาลิเบอร์ 9S65 เป็นขุมพลัง หลังจากนั้นเป็นต้นมาจึงเริ่มนำดีไซน์ตัวเรือนแบบ 44GS ในรูปแบบสมัยใหม่มาใช้กับนาฬิการุ่นต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

 

Screen Shot 2565 03 21 at 23.55.44

 

Screen Shot 2565 03 21 at 23.56.01

 

เกียรติประวัติครั้งสำคัญเกิดขึ้นกับ GRAND SEIKO เมื่อเรือนเวลากลไกไฮ-บีท (Hi-Beat) พร้อมฟังก์ชั่นจีเอ็มทีใน Ref. SBGJ005 ซึ่งมาในเรือนร่างสมัยใหม่ของ 44GS และเป็นครั้งแรกที่ใช้โรเตอร์ที่ผลิตจากไทเทเนียม ในรูปแบบฉลุร่องโปร่งพร้อมพื้นผิวสีทองเนื้อเกล็ดด้วยเทคนิคอนอดิกออกซิเดชั่น (Anodic Oxidation) ซึ่งเป็นการเคลือบผิวด้วยกรรมวิธีอลูมิเนียมออกไซด์ และกำกับด้วยเหรียญตราสัญลักษณ์สิงห์แห่ง GRAND SEIKO สามารถคว้ารางวัลGeneva Watchmaking Grand Prix ประจำปี 2014 ในสาขา ‘Petite Aiguille’ (เปอติต อายกิลล์) มาครองได้ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่นาฬิกาแบบกลไกของผู้ผลิต จากประเทศญี่ปุ่นได้รับรางวัลอันทรงเกียรติแห่งโลกนาฬิกาจากสถาบันแห่งนี้

 

Screen Shot 2565 03 21 at 23.37.33

ด้วยชัยชนะระดับโลกที่สถาบันตัดสินรางวัลเรือนเวลาในประเทศสวิตเซอร์แลนด์มอบให้ ดีไซน์แบบ GRAND SEIKO Style ของ 44GS จึงเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางไปทั่วโลก และมีสถานะเป็นดีไซน์ระดับไอคอนที่บ่งบอกถึงบุคลิกและตัวตนของนาฬิกาจาก GRAND SEIKO ได้เป็นอย่างดี ดังนั้นเรือนร่างแบบ 44GS จึงกลายเป็นหนึ่งในแนวทางการออกแบบหลักให้กับนาฬิกาจาก GRAND SEIKO รุ่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นรุ่นที่ใช้กลไกอัตโนมัติ, กลไกสปริงไดร์ฟ หรือกลไกควอท์ซ

Screen Shot 2565 03 21 at 23.36.01

 

 

Screen Shot 2565 03 21 at 23.50.39