HAVE A TALK WITH MR.EMANUEL BITTON of GRAHAM

 

นาฬิกา GRAHAM กลับเข้ามาสู่เมืองไทยอีกครั้งเป็นที่เรียบร้อยหลังจากหายออกจากตลาดไปอย่างเงียบๆ ในระยะเวลาสั้นๆ เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย จากเดิมที่ ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) เป็นผู้ทำตลาด มาเป็น เพนดูลัม ในปัจจุบัน จึงเป็นโอกาสที่ Mr. Emanuel Bitton ผู้อำนวยการฝ่ายขาย ของ GRAHAM เดินทางมาเยือนประเทศไทยในช่วงกลางปี 2013 ที่ผ่านมา และทางเราก็มีโอกาสได้สนทนากับเขาเพื่ออัพเดทและไถ่ถามถึงเรื่องของ GRAHAM อันเป็นนาฬิกาที่มีแฟนๆ ชาวไทยชื่นชอบอยู่ไม่น้อย มาอัพเดทเรื่องราวของ GRAHAM ในปัจจุบันไปพร้อมๆ กันเลยครับ

 

 

graham 1

 

 

IAW: นาฬิกา GRAHAM ส่วนมากที่เราเห็นกันมักจะเป็นนาฬิกาโครโนกราฟ ผมคิดว่ามันน่าเป็นอุปสรรคในการทำตลาดใหญ่อย่างในประเทศจีน ทาง GRAHAM จะมีการปรับเปลี่ยนอะไรบ้างไหมสำหรับเรื่องนี้ 

 

Emanuel: อย่างที่ทราบกันว่า ตลาดจีนนิยมนาฬิกาสไตล์คลาสสิก อย่าง Vacheron Constantin, Longines กับ Omega แนวคลาสสิกก็ประสบความสำเร็จมาก ด้านฟังก์ชั่นก็จะนิยมเป็นแนว จีเอ็มทีหรือมูนเฟส ส่วนนาฬิกาโครโนกราฟซึ่งนิยมกันมากในยุโรปและอเมริกาโดยเฉพาะในแนวสปอร์ตหรู มันไม่ใช่แนวสำหรับตลาดจีนในปัจจุบัน แต่ก็เริ่มมีคนรุ่นใหม่ไม่ว่าจะเป็นที่เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง หรือหลายๆ มณฑลใหญ่ ที่เริ่มมีบทบาทและมีกำลังซื้อมากขึ้นและเปิดรับอะไรที่แตกต่างและไม่เหมือนกับคนรุ่นพ่อของพวกเขา จึงถึงเวลาแล้วที่ GRAHAM จะต้องเข้าสู่ตลาดที่นั่นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับคนกลุ่มนี้ โดยเริ่มจากเว็บไซต์ที่มีภาษาจีนกลางให้เลือกก่อนเพื่อให้คนจีนเข้าถึงเราได้ง่ายขึ้น และด้วยความที่เราให้ความสำคัญกับวงการมอเตอร์สปอร์ตเป็นอย่างมาก แม้แต่การเข้าไปเป็นพันธมิตรของทีมแข่งฟอร์มูล่าวัน เราก็ทำมาแล้ว ตอนนี้เราจึงเข้าไปเป็นพันธมิตรให้กับทีมแข่งรถทีมแรกของประเทศจีนที่จะเข้าร่วมแข่งขันในศึกเลอมังส์ 24 ชั่วโมงในปีนี้ด้วย

 

IAW: ผมเห็นว่าหลังๆ มานี่ทาง GRAHAM ก็มีออกนาฬิกาแนวคลาสสิกมาด้วย

 

Emanuel: ปีที่แล้ว เราออกนาฬิกา Chronofighter ในแบบคลาสสิกที่อ้างอิงรูปแบบจากนาฬิกา Chronofighter ขนาด 47 มิลลิเมตร รุ่นพื้นฐาน แต่มากับขนาด 42 มิลลิเมตร โดยเรามีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ให้ดูคลาสสิกยิ่งขึ้น แต่ก็ยังมีดีเอ็นเอของแบรนด์อยู่อย่างครบถ้วน ใช้ชื่อว่า Chronofigher 1695 

 

 

graham 4

 

 

IAW: จุดเด่นของ GRAHAM ที่ผมเห็นคือ เป็นนาฬิกาที่มีความเป็นตัวตนสูงมาก สำหรับรุ่นนี้ที่มีความคลาสสิกอย่างนี้ มันบอกอะไรถึงทิศทางของ GRAHAM หรือเปล่าครับ 

 

Emanuel: ดีไซน์ของเรายังบ่งบอกความเป็น GRAHAM อย่างชัดเจน เพียงแต่เราต้องการออกคอลเลคชั่นให้หลากหลายและตรงกับความต้องการของคนอีกกลุ่มหนึ่งที่นิยมแนวทางคลาสสิกมากกว่าโมเดิร์น เราเห็นความต้องการของคนกลุ่มนี้ที่ชอบนาฬิกาแนววินเทจหรือคลาสสิก สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความเป็น GRAHAM เค้าจะยึดติดว่า GRAHAM จะต้องเป็นนาฬิกาขนาดโอเวอร์ไซส์ หนา ใหญ่ บึกบึน เท่านั้น แต่ก็มีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ชอบสไตล์ของ GRAHAM แต่ติดที่ว่ามีขนาดใหญ่เกินไปจึงอยากให้เราทำขนาดให้เล็กลงและมีดีไซน์ที่ดูคลาสสิกยิ่งขึ้น เราจึงออกทางเลือกมาสำหรับคนกลุ่มนี้ มากไปกว่านั้นเรายังมีการสลักฝาหลังอย่างสวยงามเป็นภาพหอสังเกตุการณ์หลวงแห่งเมืองกรีนิชอีกด้วย ซึ่งเป็นการรำลึกถึงอัจฉริยะนักประดิษฐ์นาฬิกาชาวอังกฤษ George Graham ซึ่งเป็นที่มาของชื่อแบรนด์

 

IAW: มีโครงการณ์ที่จะทำกลไกอินเฮ้าส์ขึ้นมาใช้บ้างหรือยังครับ 

 

Emanuel: 80% ของนาฬิกาเรา ยังคงใช้กลไกเบสของ Valjoux 7750 อยู่ ส่วนที่เหลือจะเป็นนาฬิกาโปรเจ็คต์พิเศษๆ ที่เราพัฒนาร่วมกับ La Joux-Perret หรือ Christophe Claret หรือ Concepto และในปีที่แล้วเราก็ได้ออก Prodive คอลเลคชั่นนาฬิกาดำน้ำมาด้วย ซึ่งก็เป็นการตีความ Chronofighter ออกมาในรูปแบบใหม่ให้เป็นนาฬิกาดำน้ำระดับโปรที่สามารถกันน้ำได้ถึง 600 เมตร โดยมีจุดเด่นคือเป็นนาฬิกาโครโนกราฟที่ใช้ปุ่มกดเดียวในการสั่งการ 

 

 

graham 2

 

 

IAW: เท่ากับว่านาฬิกา Chronofighter รุ่นสไตล์คลาสสิกและรุ่นดำน้ำที่ออกเมื่อปีที่แล้ว (2012) เพิ่งเข้ามาขายในประเทศไทยในปีนี้ 

 

Emanuel: ใช่ เป็นครั้งแรกของประเทศไทยพร้อมกับนาฬิกาคอลเลคชั่นใหม่ประจำปี 2013 เพราะปีที่แล้วมีการเปลี่ยนแปลงตัวแทนจำหน่ายอย่างที่คุณทราบกัน ปีนี้คนไทยจึงจะได้เห็น GRAHAM คอลเลคชั่นใหม่ๆ ที่มีความแตกต่างไปจากเดิมหลายแบบด้วยกัน นาฬิการุ่นพิเศษสำหรับปีนี้เรามีนาฬิกาที่ใช้ตัวเรือนวัสดุไฮเทคอย่างคอมโพสิต นาโนทิวบ์ คาร์บอน ในรุ่น Chronofighter Moto Oversize ซึ่งเป็นนาฬิกาลิมิเต็ดเอดิชั่นสำหรับ Isle of Man TT รายการการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ระดับโลกที่เราเป็นพาร์ทเนอร์ต่อเนื่องกันมาหลายปี วัสดุนี้เป็นวัสดุที่ใช้กันในวงการอากาศยาน ใช้ทำชิ้นส่วนสำหรับเครื่องบิน F-35 ของ Lockheed Martin มีน้ำหนักเบาสุดๆ และแข็งแกร่ง และก็เป็นวัสดุเดียวกับที่ Richard Mille นำมาใช้ นอกจากนี้เรายังออกคอลเลคชั่นสำหรับผู้หญิงมาด้วย โดยจะเป็นนาฬิกา Chronofighter 1695 ประดับเพชรที่ใช้ตัวเรือนขนาด 42 มิลลิเมตร และก็มีนาฬิกาประดับเพชรรุ่น Chronofighter 1695 Lady Moon นาฬิกาประดับเพชรกลไกควอตซ์โครโนกราฟพร้อมมูนเฟสที่ใช้ตัวเรือนขนาดเล็ก 36 มิลลิเมตร ซึ่งเป็น Chronofighter ที่มีขนาดเล็กที่สุดที่เคยทำออกมาและก็เป็นครั้งแรกที่ GRAHAM ทำนาฬิกาควอตซ์ด้วย โดยจะขายในราคาเริ่มต้นที่แสนกลางๆ เท่านั้น ซึ่งก็จะทำให้ผู้หญิงสามารถเป็นเจ้าของนาฬิกาของ GRAHAM ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้สำหรับผู้ชาย เรายังมีรุ่น Chronofighter 1695 ที่ใช้ตัวเรือนซิลเวอร์ (925) ออกมาด้วย ซึ่งก็มีการเคลือบโรเดียมเอาไว้เรียบร้อยเพื่อป้องกันความดำอันเป็นธรรมชาติของซิลเวอร์ และก็มี Silverstone เวอร์ชั่นใหม่ๆ ออกมาด้วย

 

 

graham 6

 

graham 31 graham 5

 

 

นาฬิกา GRAHAM คอลเลคชั่นใหม่ๆ ที่คุณ Emanuel ได้โชว์ให้เราได้ชมกันนี้ ต้องบอกว่ามีความน่าสนใจและแปลกไปจากนาฬิกา GRAHAM ที่เราคุ้นเคยกันมาแต่เก่าก่อนอยู่พอสมควร แต่ทุกแบบก็ยังคงมีความเป็น GRAHAM อยู่อย่างไม่เปลี่ยนแปลง และก็น่าจะถูกใจผู้คนในวงกว้างขึ้นสมอย่างที่ทาง GRAHAM ตั้งใจ ลองไปสัมผัสกันดูนะครับ ว่าจะถูกใจคุณๆ กันมั้ย

 

 

By: Pramote R. & Viracharn T.