GIRARD-PERREGAUX Tourbillon with Three Gold Bridges

 

ในปี 1867 GIRARD-PERREGAUX ได้เผยโฉมผลงานนาฬิการุ่น Tourbillon with Three Gold Bridges เป็นครั้งแรก และเวลานั้นเองที่ไอคอนแห่งเรือนเวลาได้ถือกำเนิดขึ้น ทั้งยังมีความแตกต่างไปจากนาฬิกาทั่วไป ด้วยสะพานจักรซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่สำคัญในกลไกที่โดยปกติจะถูกซ่อนไว้ แต่กลับกลายเป็นดั่งองค์ประกอบสำคัญด้านความสวยงามของนาฬิกา ซึ่งด้วยการตัดสินใจนี้เองที่ทำให้ GIRARD-PERREGAUX ได้กลายเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงในการสร้าง สิ่งที่ไม่อาจมองเห็นให้สามารถมองเห็นด้วยความงดงามได้ และผลลัพธ์นี้ยังได้ถูกนำมาประยุกต์ใช้กับผลงานในรุ่นต่างๆ อีกมากมายนับจากนั้น เช่นเดียวกับการถือกำเนิดของนาฬิการุ่น Tourbillon with Three Flying Bridges ใหม่ล่าสุดที่เมซงแห่งนี้สืบทอดไว้ ด้วยปรัชญางานออกแบบเดียวกัน ทว่าพลิกโฉมความน่าหลงใหลได้อย่างน่าทึ่งในตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

 

73393

 

และเนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 230 ปีของแบรนด์ในปีนี้ และเป็นดั่งส่วนหนึ่งของการฉลองอันยิ่งใหญ่ โรงงานการผลิตแห่งนี้จึงได้นำนาฬิการุ่นไอคอนิครุ่นนี้ มาสร้างสรรค์ใหม่ขึ้นโดยยังคงผสมผสานไว้ด้วยนวัตกรรมแห่งความทันสมัย อย่างเช่นนีโอบริดจ์ส (Neo Bridges) สามชิ้นที่ขึ้นรูปจากวัสดุพิ๊งค์โกลด์ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่นีโอบริดส์จทั้งสามนี้ได้รังสรรค์ขึ้นจากโลหะล้ำค่าเช่นนี้ด้วย นับเป็นอีกหนึ่งความน่าสนใจหลังจากที่ก่อนหน้านี้เมซงได้เปิดตัวฟรีบริดจ์ (Free bridge) มาแล้วเมื่อปี 2020 ซึ่งเรือนเวลารุ่นนี้จะเป็นเรือนเวลาตระกูลย่อยสุดท้าย ที่เข้าร่วมอยู่ในคอลเลคชั่น Bridges อันเลื่องชื่อของแบรนด์ เนื่องจากทั้งสามสะพานจักรนี้ไม่เพียงทำหน้าที่รองรับขบวนเฟือง (geartrain), กระปุกลาน (barrel) และตูร์บิญอง (tourbillon) แต่ยังมีบทบาทในฐานะแท่นกลไกไปพร้อมกันอีกด้วย

 

Screen Shot 2564 09 14 at 23.26.09

 

ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็คือสะพานจักรที่ปรากฎเสมือนลอยอยู่กลางอากาศ และดูราวกับไร้น้ำหนักหรือไม่มีผลกระทบใดๆ จากแรงโน้มถ่วง โดยโครงสร้างอันแสนพิเศษนี้จำเป็นต้องใช้ความเชี่ยวชาญ ทางด้านการผลิตในการติดตั้งมาร์กเกอร์แสดงเวลาไว้บนขอบด้านข้าง หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นการติดตั้งเข้ากับตัวเรือนด้านในแทน ในขณะที่พื้นผิวด้านบนและด้านล่างของสะพานจักรพิ๊งค์โกลด์ ยังผ่านการตกแต่งโดยการเคลือบพีวีดีสีดำ และยังมอบภาพอันโดดเด่นดึงดูดสายตามากกว่าเมื่ออยู่บนพื้นหน้าปัด โดยมีเพียงขอบแนวตั้งแคบๆ ของแต่ละสะพานจักรเท่านั้นที่ถูกเผยให้เห็น และอาจกล่าวได้ว่าสะพานจักรเหล่านี้นับเป็น 'ความหรูหราที่แสนอ่อนน้อมถ่อมตน' ที่ซึ่งมีเพียงผู้รู้และสนใจเป็นพิเศษเท่านั้น ที่จะสังเกตเห็นถึงคุณสมบัติอันแสนล้ำค่าขององค์ประกอบภายใน นอกจากนี้สะพานจักรแต่ละชิ้น ยังจำเป็นต้องผ่านการขัดขึ้นมุมด้วยมืออย่างพิถีพิถันและละเอียดละออ

 

73391

 

โดยการใช้เพียงอุปกรณ์ชิ้นเล็กๆ จากกล่องเครื่องมือไม้ของช่าง ซึ่งเป็นเทคนิคที่ใช้กันมาอย่างยาวนานหลายร้อยปี โดยช่างฝีมือต้องใช้เวลาตลอดหนึ่งวันเต็มเพื่อให้ได้งานการตกแต่งที่สมบูรณ์แบบ ที่แม้ว่า Tourbillon with Three Flying Bridges จะปรากฏโฉมด้วยความร่วมสมัย แต่ยังคงหล่อหลอมไว้ด้วยการสืบทอดและเชิดชูซึ่งเทคนิคประเพณีอีกมากมาย ที่สอดคล้องกับวิถีแห่งการประดิษฐ์เครื่องบอกเวลาชั้นสูง ซึ่ง Patrick Pruniaux ผู้อำนวยการบริหารใหญ่ของ GIRARD-PERREGAUX กล่าวเน้นย้ำว่า “เราปรารถนาที่จะสร้างสรรค์นาฬิกาที่เป็นดั่งสะพานเชื่อมโยงถึงอดีต แต่ยังคงแสดงออกถึงวิสัยทัศน์ของเราสู่อนาคตเช่นกัน ผลงานรุ่นนี้ได้ดึงเอาพรสวรรค์ของเหล่าช่างฝีมือของเรา และจับคู่ระหว่างวิธีการสร้างสรรค์ทางประเพณีและเทคนิคแห่งนวัตกรรมอันล้ำสมัย”

 

Screen Shot 2564 09 14 at 23.26.45

 

“โดยนาฬิการุ่นนี้เต็มไปด้วยแนวทางด้านสถาปัตยกรรมแบบสามมิติ และเปิดโอกาสให้ผู้สวมใส่ได้มองเห็นชิ้นส่วนต่างๆ มากมายซึ่งโดยปกติแล้วจะถูกซ่อนไว้ไม่ให้มองเห็น โดยนับตั้งแต่แรกเริ่มเปิดตัวผลงานนี้ GIRARD-PERREGAUX ก็ได้สร้างซึ่งสิ่งที่ไม่อาจมองเห็นให้มองเห็นได้ และเป็นสิ่งที่ผมคาดหวังว่าจะยังคงดำเนินเช่นนี้ต่อไปอีกตลอด 230 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ดี ทีมทำงานของเราก็ได้เลือกที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่เพิ่มเติมขึ้นอีกเล็กน้อย โดยเฉพาะการรังสรรค์สะพานจักรขึ้นจากทอง และจากนั้นยังอาบไว้ด้วยพีวีดีสีดำ โดยคงไว้เพียงด้านข้างของสะพานจักรที่เผยให้เห็นถึงวัสดุอันล้ำค่าของทอง จึงนับเป็นการสร้างสรรค์ในรูปแบบใหม่อันน่าอัศจรรย์ และยังคงไว้ด้วยวิถีที่สอดคล้องกับความหรูหรา ที่ยังคงเป็นความลับสำหรับผู้คนส่วนใหญ่ ยกเว้นแต่เพียงผู้รู้และผู้ที่สนใจเท่านั้นจะสังเกตเห็นและรับรู้ได้ถึงความหรูหรานั้น”

 

Screen Shot 2564 09 14 at 23.26.23

 

ขณะที่คุณลักษณะและเอกลักษณ์อันสง่างามของเรือนเวลานี้ยังคงเป็นการเล่นกับรูปทรงสามมิติ และการจัดวางองค์ประกอบของหน้าปัดที่หลากหลายด้วยระดับชั้นที่ต่างกัน อันเป็นหนึ่งในคุณลักษณะเฉพาะที่มีเหมือนกันกับเหล่าโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมอันประณีตสูงสุดของโลก และแม้ว่าจะมีความสลับซับซ้อนแต่หน้าปัดของเรือนเวลาก็ยังไว้ด้วยความสะอาดตา ไม่อึดอัดและง่ายต่อการอ่านค่า พร้อมทั้งกระปุกลาน ขบวนเฟือง และชุดตูร์บิยองที่จัดวางไปตามแกนเหนือ-ใต้ได้อย่างสมดุลลงตัว ส่วนกระปุกลานซึ่งจัดวางไว้ ณ ส่วนบนของหน้าปัดและอยู่เหนือไมโคร-โรเตอร์ไวท์โกลด์นั้นยังได้ใช้ประโยชน์ จากพลังงานที่ได้มาจากการเคลื่อนไหวของนาฬิกาที่สวมใส่บนข้อมืออย่างเต็มที่ ขณะที่ขอบข้างแนวตั้งของโรเตอร์จะแกะสลักไว้ด้วยชื่อรุ่นของนาฬิกา ที่นับเป็นรายละเอียดอันพิถีพิถันซึ่งแสดงออกได้อย่างสมบูรณ์แบบถึงความหลงใหลของแบรนด์

 

Screen Shot 2564 09 14 at 23.27.07