REVEALS THE HEART

 

จากแนวคิดที่เกิดจากความต้องการสร้างนาฬิกาจักรกลสวิสแท้ๆ ผลิตในเจนีวา ในรูปลักษณ์ตามแบบแผนประเพณีดั้งเดิมขึ้นในราคาที่คนทั่วไปเอื้อมถึงได้ในคอนเซ็ปต์ “Accessible Luxury” ของสามี-ภรรยาคู่หนึ่ง นามว่า Peter Stas และ Aletta Bax ทำให้ทั้งสองหันเหวิถีชีวิตมามุ่งมั่นสร้างแบรนด์นาฬิกาในอุดมคติของตนขึ้นมาในช่วงต้นยุค 1990 โดยใช้ชื่อว่า Frederique Constant จนได้คลอดคอลเลคชั่นแรกที่เรียกว่า Heart Beat ออกมาจำหน่ายในปี 1994

 

FC Manufacture Geneva

โรงงานของ Frederique Constant ในปล็องเลซวตร์ (Plan-les-Ouates) นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

 

Heart Beat ชุดแรกที่ออกมาเมื่อปี 1994 นั้น แน่นอนว่าจะต้องเป็นนาฬิกาจักรกลตามที่ตั้งใจไว้ แต่ไม่ใช่เท่านั้น Frederique Constant ยังได้บุกเบิกสิ่งใหม่ให้กับวงการนาฬิกาด้วยการเปิดช่องส่วนหนึ่งบนหน้าปัดให้สามารถมองเห็นการทำงานของบาลานซ์วีลของเครื่องอัตโนมัติที่ใช้อยู่ได้ เหมือนกับว่าเห็นหัวใจกำลังเต้นอยู่ และนี่เองที่เป็นที่มาของชื่อคอลเลคชั่นนี้ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อแสดงให้เห็นว่านาฬิการุ่นนี้ไม่ได้ทำงานด้วยเครื่องควอตซ์เหมือนนาฬิการาคาใกล้กันแบรนด์อื่นๆ ที่นิยมใส่กันในยุคนั้น น่าเสียดายที่ทาง Frederique Constant ไม่ได้ทำการจดสิทธิบัตรใดๆ เอาไว้สำหรับวิธีการเปิดหน้าปัดที่ได้นำมาใช้ในนาฬิกาของตนเป็นเจ้าแรก จึงมีแบรนด์อื่นๆ ทำตามกันมาเป็นแถวในเวลาต่อมาแม้จะเปิดคนละจุดกันหรือใช้รูปทรงช่องที่ไม่เหมือนกันก็ตาม

 

Frederique Constant HeartBeat 2016

 

จากนั้นพัฒนาการของคอลเลคชั่น Heart Beat ก็ได้ดำเนินอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาไม่เคยสะดุดหยุดไปแต่อย่างใดและยังคงลักษณะการเปิดช่องบนหน้าปัดไว้อย่างเหนียวแน่น โดยได้พัฒนาฟังก์ชั่นต่างๆ ให้กับคอลเลคชั่นนี้ เริ่มจาก Day-Date ในปี 1998 ต่อด้วย Perpetual ในปี 1999 และ Retrograde ในปี 2001 ซึ่งใช้เครื่องที่พัฒนาร่วมกับผู้ผลิตเครื่องชื่อดัง เช่น Dubois-Depraz และ Agenhor และจุดมาร์คสำคัญของคอลเลคชั่นนี้ก็ได้เกิดขึ้นในปี 2001 เมื่อทาง Frederique Constant ได้ตัดสินใจพัฒนาเครื่องของตนเองแท้ๆ ขึ้นมา จากพื้นฐานที่ต้องการให้คุณลักษณะเด่นของความเป็น Heart Beat มีความเด่นชัดขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากแต่ก่อนนั้นบาลานซ์วีลของเครื่องที่ใช้จะอยู่ในตำแหน่งที่ลึกลงไปจากช่องที่เปิดไว้บนหน้าปัดมาก และสไปรอลก็อยู่ทางด้านหลังจึงทำให้มองเห็นได้ไม่แจ่มแจ้งเท่าที่ควร เครื่องที่พัฒนาขึ้นใหม่นี้จึงเป็นเครื่องที่ออกแบบให้มีบริดจ์ยึดบาลานซ์วีลและมีสไปรอลอยู่ด้านหน้าของเครื่องเพื่อให้มองเห็นแจ่มแจ้งจากช่องที่เปิดเอาไว้ซึ่งคราวนี้ทางแบรนด์ได้ทำการจดสิทธิบัตรลักษณะของเครื่องเอาไว้เป็นที่เรียบร้อย และได้ฤกษ์วางลงในนาฬิกาที่ใช้ชื่อว่า Heart Beat Manufacture เป็นครั้งแรกในปี 2004 อันเป็นจุดเริ่มต้นของไลน์ Heart Beat Manufacture ซึ่งถือเป็นเครื่องอินเฮ้าส์เครื่องแรกของแบรนด์ ทำงานด้วยกลไกไขลาน โดยมีการเพิ่มเติมฟังก์ชั่น มูนเฟส-เดท ในปี 2005 และคลอดเครื่องขึ้นลานอัตโนมัติอินเฮ้าส์ตามมาอีกครั้งในปี 2006 จากนั้นก็มีการพัฒนาต่อยอดด้วยการเพิ่มฟังก์ชั่นต่างๆ อย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน อาทิ มูนเฟส-เดท และจีเอ็มที รวมถึงมีรุ่นที่วางเครื่องที่ใช้เอสเคปเม้นท์วีลและเลเวอร์ซึ่งทำจากซิลิเซียมด้วย โดยบางรุ่นจะมีทั้งตัวเรือนสตีล โรสโกลด์ 18k หรือไวท์โกลด์ 18k ให้เลือก อีกทั้งยังมีการตกแต่งพื้นหน้าปัดที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นแบบแกะลายกิโยเช่ แบบขัดแต่งลายโค๊ตเดอเชอแนฟ หรือแบบหน้าปัดอีนาเมล ซึ่งแต่ละรุ่นแต่ละแบบฟังก์ชั่น ตัวเรือน และหน้าปัด ของคอลเลคชั่น Heart Beat Manufacture จะถูกผลิตขึ้นในแบบจำนวนจำกัดทั้งสิ้น มากน้อยไม่เท่ากันแต่มักจะลงท้ายด้วยเลข 8 เช่น 88, 188 หรือ 1,888 เรือน และนับจากปี 2006 เป็นต้นมา นาฬิกาทุกเรือนของ Frederique Constant จะถูกผลิตขึ้นที่โรงงานของตัวเองในปล็องเลซวตร์ (Plan-les-Ouates) นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งอยู่ในแถบเดียวกันกับโรงงานของแบรนด์ดังๆ อีกหลายแบรนด์

 

frederique constant heart beat fc935cdg4h6

Heart Beat Manufacture Moonphase Date Automatic (Ref. FC-935CDG4H6)

ตัวเรือนสตีลขนาด 42 มม. ผลิตจำนวน 188 เรือน กลไกอัตโนมัติ Cal. FC-935 แสดงข้างขึ้นข้างแรม บอกวันที่ด้วยเข็ม พื้นหน้าปัดขัดแต่งลายโค๊ตเดอเชอแนฟ สำหรับรุ่นนี้ในประเทศไทยมีอยู่เพียงไม่กี่เรือนเท่านั้น

 

ในคอลเลคชั่น Heart Beat Manufacture ยังมีนาฬิการุ่น Manufacture Tourbillon ที่ใช้เครื่องขึ้นลานอัตโนมัติที่มากับกลไกตูร์บิยองซึ่งใช้เอสเคปเม้นท์วีลที่ทำจากซิลิเซียมรวมอยู่ด้วย โดยผลิตในตัวเรือนไวท์โกลด์ 18k และโรสโกลด์ 18k ในจำนวนจำกัดเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีอีกคอลเลคชั่นหนึ่งที่ใช้เครื่องอินเฮ้าส์เช่นเดียวกันก็คือ Maxime Manufacture Automatic ที่มากับรูปแบบนาฬิกาสไตล์คลาสสิกหรูขนาด 42 มิลลิเมตร สำหรับคุณผู้ชาย และ Maxime Manufacture Automatic Ladies ตัวเรือนขนาด 39 มิลลิเมตร สำหรับคุณผู้หญิง ทั้ง 2 ขนาด มากับหน้าปัดย่อยบอกวันที่ด้วยเข็มที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ทำงานด้วยเครื่องขึ้นลานอัตโนมัติ Calibre FC-700 โดยรุ่นสำหรับคุณผู้ชายยังมีรุ่นที่ใช้เครื่องที่มีเอสเคปเม้นท์วีลทำจากซิลิเซียมให้เลือกด้วย และยังมีคอลเลคชั่นที่น่าสนใจอื่นๆ อีกมาก อาทิ Runabout ที่เริ่มออกจำหน่ายในปี 2009 โดยมีที่มาจากการแข่งเรือ Runabout โดยผลิตในแบบจำนวนจำกัดเช่นกัน มีทั้งแบบบอกเวลาสุดเรียบง่าย แบบมีหน้าปัดย่อยบอกวัน วันที่ และมูนเฟส และล่าสุดแบบมีมาตรเพาเวอร์รีเซิร์ฟเครื่องอินเฮ้าส์ด้วย และคอลเลคชั่นนาฬิกาโครโนกราฟลิมิเต็ดเอดิชั่น Vintage Rally ที่ออกมาเนื่องในโอกาสที่ทางแบรนด์เข้าไปสนับสนุนการแข่งขันรถโบราณในรายการ Peking to Paris สำหรับคุณผู้หญิงก็มีไลน์ Ladies Automatic อย่างรุ่น Double Heart Beat และ Love Heart Beat ที่ค่อนข้างคุ้นตากันดี เป็นต้น

 

ตัวเลขยอดขายของ Frederique Constant ในตลาดโลก มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ทำให้พอจะสรุปได้ว่า ผู้ที่ต้องการนาฬิกาสวิสในรูปลักษณ์ดั้งเดิมในราคาสมเหตุสมผลยังมีอยู่อีกมาก แต่จำนวนประชากรนาฬิกา Frederique Constant ในประเทศไทยจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือนตลาดอื่นๆ ในโลกหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับคุณๆ แล้วล่ะครับว่าเลือกซื้อนาฬิกากันด้วยปัจจัยใด ความสมเหตุสมผล ความคุ้มค่ากับฟังก์ชั่นและวัสดุ คุณค่าของแบรนด์ การรับรู้ของผู้คน หรือราคาขายต่อ

20120113 524257420120113 173597020120113 545224420120113 1401937520120113 2971592720120113 8164020920120113 8210589820120113 87785827

 

By: Viracharn T.