ERWIN SATTLER "CLOCKS FOR GENERATIONS TO COME"

 

Erwin Sattler ผู้ผลิตนาฬิกาคล็อคอันดับต้นๆ ของโลกแห่งเยอรมนีที่ได้รับการยอมรับจากผู้ชื่นชอบนาฬิกาและนักสะสมของล้ำค่าจากทั่วโลกว่าเป็นมาตรฐานแห่งนาฬิกาคล็อคที่ดีที่สุดในโลก โรงงานนาฬิกาขนาดเล็กในเยอรมนีอายุกว่า 50 ปีที่มีกำลังการผลิตในแต่ละปีไม่มากนักแห่งนี้ก้าวขึ้นมาสู่เกียรติภูมิสูงสุดนี้ได้อย่างไร และทำไมเขาจึงเรียกตนเองว่าเป็น “Clocks for generations to come” หรือ “นาฬิกาอันล้ำค่าสำหรับชนรุ่นหลัง” ซึ่งฟังดูเป็นแนวคิดคล้ายกับคุณค่าของนาฬิกาข้อมือ Patek Philippe ที่กลายเป็นนาฬิกาอันล้ำค่าสำหรับส่งมอบต่อให้กับลูกหลาน บทความนี้มีคำตอบครับ

 

 

สานฝันสู่ความจริง

 

นาฬิกาคล็อค Erwin Sattler มีจุดเริ่มต้นจาก Heinrich Sattler ปรมาจารย์นักประดิษฐ์นาฬิกาผู้ได้รับสิทธิบัตรการออกแบบกลไกการแสดงปฏิทินตลอดชีพ (เพอร์เพทชวลคาเลนดาร์) เมื่อปี ค.ศ.1903 หรือกว่า 100 ปีก่อน เป็นเครื่องยืนยันอัจฉริยภาพ เขาได้รับแรงบันดาลใจจากคำกล่าวของ Marion Dönhoff นักข่าวหนังสือพิมพ์เก่าแก่ในประวัติศาสตร์เยอรมันว่า “เราสร้างหนังสือพิมพ์อย่างที่เราอยากอ่าน” เขาจึงมีความใฝ่ฝันที่จะออกแบบและสร้าง “นาฬิกาที่เขาอยากซื้อ” ขึ้นด้วยตัวเองเนื่องจากในตลาดไม่มีใครประดิษฐ์นาฬิกาที่เขาอยากได้ Erwin Sattler ผู้เป็นหลานรู้ซึ้งถึงความปรารถนาอันแรงกล้าของ Heinrich คุณปู่ของเขาที่ต้องการสร้างนาฬิกาที่ดีที่สุดซึ่งสร้างขึ้นจากขนบประเพณีแห่งการประดิษฐ์นาฬิกาสุดคลาสสิกดั้งเดิมด้วยทักษะเชิงช่างอันเก่าแก่ผสานรวมกับนวัตกรรมกลไกต่างๆ จึงสานต่อความฝันด้วยการก่อตั้งบริษัท Erwin Sattler München ขึ้นในปี ค.ศ.1958 เพื่อดำเนินกิจการตามเจตนารมณ์ของคุณปู่ด้วยความรักอันเปี่ยมล้นเรื่อยมาจนเลื่อนชั้นขึ้นสู่สถานะมานูแฟคตูร์หรือผู้ผลิตนาฬิกาอย่างเต็มภาคภูมิในช่วงกลางทศวรรษที่ 80 เมื่อได้นักประดิษฐ์นาฬิกานาม Richard Müller เข้ามาร่วมบริหารและเป็นหัวหน้าฝ่ายเทคนิคในบริษัทและ Stephanie Sattler-Rick ลูกสาวของเขาเข้ามาช่วยงาน และปัจจุบัน Erwin Sattler ก็ได้ส่งต่อการบริหารงานสู่ Stephanie และ Richard ซึ่งทั้งคู่ก็ยึดมั่นแนวทางการประดิษฐ์นาฬิกาของบริษัทที่ว่า “Clocks for generations to come” ไว้อย่างเหนียวแน่น นาฬิกาของ Erwin Sattler ทุกเรือนจึงเป็น “นาฬิกาอันล้ำค่าสำหรับชนรุ่นหลัง” อย่างแท้จริง ซึ่งในปัจจุบันนอกจากนาฬิกาคล็อคซึ่งมีทั้งแบบแขวนผนังและแบบตั้งโต๊ะแล้วยังมีไลน์นาฬิกาตั้งพื้น นาฬิกานำทางสำหรับการเดินเรือ ตลอดจนนาฬิกาข้อมือ และก็มีชุดคิทประกอบนาฬิกาออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการสำหรับผู้ที่อยากจะเรียนรู้เรื่องกลไกและประกอบนาฬิกาด้วยตัวเองอีกด้วย

 

ทุกวันนี้โลกรู้จัก Erwin Sattler ในฐานะโรงงานผลิตนาฬิกาคล็อคความเที่ยงตรงสูงที่ดีที่สุด แต่ละชิ้นจะถูกสร้างขึ้นด้วยความประณีตพิถีพิถันระดับสูงสุดโดยมีจำนวนการผลิตในแต่ละปีไม่มากนัก นาฬิกาของ Erwin Sattler จึงเป็นที่ปรารถนาของผู้ชื่นชอบนาฬิกาตลอดจนนักสะสมของมีค่าทั่วโลกและได้รับการยอมรับว่าเป็นมาตรฐานด้านเทคนิค นวัตกรรม ความงดงาม และคุณภาพระดับสูงสุดของนาฬิกาคล็อค กว่า 50 ปีแห่งการดำเนินกิจการ Erwin Sattler ผลิตแต่เพียงนาฬิกาคล็อคที่ดีที่สุดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น นาฬิกาทุกเรือนของ Erwin Sattler จึงมากด้วยคุณค่าและกลายเป็นสิ่งล้ำค่าที่ถูกส่งมอบต่อจากรุ่นสู่รุ่นจนเป็นที่ร่ำลือไปทั่วโลก

 

 

home image.797801

 

โรงงานของ Erwin Sattler ในเยอรมนี 

 

 

รักษาพัฒนาศาสตร์การประดิษฐ์

 

ความเที่ยงตรงแม่นยำในการบอกเวลาเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของนาฬิกาไม่ว่าจะยุคสมัยใดก็ตาม แน่นอนว่าการจะเป็นนาฬิกาจักรกลอันล้ำค่าได้ก็ต้องมีความแม่นยำในการบอกเวลาสูงกว่านาฬิกาทั่วไป ดังนั้นทุกรายละเอียดของแต่ละชิ้นส่วนจึงจะต้องมีการออกแบบและผลิตอย่างพิถีพิถัน ไม่ว่าจะเป็นร่องฟันของเฟืองแต่ละชิ้นจนถึงวัสดุที่นำมาใช้ในแต่ละชิ้นส่วน ซึ่งทุกอย่างจะต้องผ่านการคำนวณมาอย่างดีโดยลงรายละเอียดไปถึงระดับเสี้ยววินาที Erwin Sattler ตระหนักดีถึงความจำเป็นในข้อนี้ จึงได้มีส่วนงานวิจัยและพัฒนาเป็นของตัวเองโดยมีเทคโนโลยีอันทันสมัยและบุคลากรมากฝีมือเป็นเครื่องมือสำคัญเพื่อที่จะคิดค้นพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ และออกแบบนาฬิกาที่บอกเวลาได้แม่นยำที่สุดต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งซึ่งเป็นสิ่งที่ Richard Müller ผู้มีสถานะเป็นเจ้าของร่วมและเป็นประธานบริษัทในปัจจุบันและยังคงเป็นหัวหน้าฝ่ายเทคนิคอยู่ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง

 

ตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดและได้นำมาใช้แล้วก็คือ การใช้คอมพิวเตอร์คำนวณการใช้เกียร์ต่างๆ ร่วมกับซี่เฟืองแสนละเอียด ตลอดจนการติดตั้งจิวเวลและบอลแบริ่งในจุดต่างๆ ให้สามารถส่งต่อกำลังได้อย่างมีประสิทธิภาพจนสามารถลดการใช้แรงขับเคลื่อนลงจากกลไกแบบเดิมได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ และยังส่งผลให้กลไกมีความคงทนและมีอายุยืนยาวยิ่งขึ้นด้วย การพัฒนานี้ถูกทำขึ้นในห้องแล็บที่ได้จำลองสภาพการใช้งานให้เหมือนจริงที่สุดซึ่งแม้แต่สภาพความกดอากาศที่เปลี่ยนแปลงอันอาจมีผลกระทบต่อน้ำหนักการแกว่งของตุ้มเหวี่ยงหรือเพนดูลัมก็ได้รับการคำนวณโดยละเอียด ทำให้นาฬิกา Erwin Sattler มีความแม่นยำสูงสุดถึงระดับมีความคลาดเคลื่อนไม่เกิน 1 วินาทีต่อเดือน นอกจากนี้ยังมีการนำวัสดุใหม่ๆ มาใช้ในส่วนประกอบต่างๆ อาทิ ไดรวิ่งเวทที่ทำจากทังสเตน คันตุ้มเหวี่ยงที่ทำจากอินเวอร์ และบอลแบริ่งความเสียดทานต่ำ เป็นต้น เทคโนโลยีและวัสดุใหม่ๆ เหล่านี้ถูกนำมาผสมผสานเข้ากับศาสตร์การประดิษฐ์นาฬิกาตามขนบประเพณีดั้งเดิมได้อย่างมีดุลยภาพและแนบเนียนลงตัว

 

 

การผลิตแสนละเอียด

 

เป้าหมายเดียวในการผลิตนาฬิกาของ Erwin Sattler คือ “ความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า” ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่จะได้จากทุกขั้นตอนการผลิต เริ่มตั้งแต่การรูปลักษณ์ คุณภาพ ตลอดจนความทนทานของนาฬิกา ซึ่งพนักงานมากฝีมือรวม 25 ชีวิตรังสรรค์ขึ้นอย่างตั้งใจ ชิ้นส่วนกลไกวัสดุโลหะทั้งที่ทำจากทองเหลืองหรือสตีลแต่ละชิ้นนั้นจะถูกผลิตขึ้นจากเครื่องซีเอ็นซีสุดไฮเทคความละเอียดสูงถึงระดับ 1/100 มิลลิเมตร ก่อนที่จะนำมาขัดแต่งและประกอบขึ้นด้วยมือ ทุกขั้นตอนในกระบวนการผลิตอยู่ภายใต้การควบคุมและการวางมาตรฐานของ Richard ทั้งหมดเพื่อให้เป็นนาฬิกาแบบเพนดูลัมที่เที่ยงตรงเชื่อถือได้ที่สุดในโลก

 

เครื่องนาฬิกาจักรกลของ Erwin Sattler ทุกแบบในปัจจุบันถูกออกแบบและผลิตภายในโรงงานของตัวเองทั้งหมด โดยผลิตขึ้นในจำนวนไม่มากนักในแต่ละปี ก่อนที่จะนำไปประกอบใส่ในตัวเรือนทำจากไม้คุณภาพสูงที่ผลิตให้โดยผู้เชี่ยวชาญในเทคโนโลยีการผลิตไม้ซึ่งอยู่ในเยอรมนีเช่นกันตามสเป็คที่ Erwin Sattler ต้องการ ดังนั้นจึงสามารถกล่าวได้ว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของนาฬิกาแต่ละเรือนของ Erwin Sattler ถูกผลิตขึ้นโดย Erwin Sattler เองที่โรงงานใน Gräfelfing ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับกรุงมิวนิคในประเทศเยอรมนี

 

แนวคิดที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งและไม่อาจมองข้ามไปได้ก็คือมุมมองที่ว่ามนุษย์และนาฬิกามีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน นั่นคือ ความต้องการอนาคต Erwin Sattler จึงส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่สามารถพัฒนาฝีมือและประสบการณ์เพื่อเป็นนักประดิษฐ์นาฬิกาที่ดีในอนาคตได้ด้วยการเปิดโอกาสให้ช่างนาฬิกาฝึกหัดเข้ามาร่วมงานด้วย

 

 

กลไกคุณภาพ

 

เครื่องนาฬิกาของ Erwin Sattler ถูกประกอบขึ้นด้วยชิ้นส่วนอันซับซ้อนหลายร้อยชิ้น จึงต้องใช้เวลามากในการผลิต เพราะเพียงการสลักสเกลลงบนหน้าปัดสีเงินชิ้นเดียวก็ใช้เวลาถึง 50 นาทีแล้ว หรืออย่างเข็มแต่ละเข็มที่ใช้ซึ่งเป็นแบบที่เรียกว่า “profiling” หรือเข็มแบบครึ่งวงกลมตามรูปแบบประเพณีดั้งเดิมของเข็มนาฬิกานั้นก็จะต้องได้รับการขัด ปัดเงา และผ่านความร้อนด้วยเปลวก๊าซจนกระทั่งได้สีฟ้าอร่ามตามที่ต้องการ ส่วนเพลทเครื่องซึ่งเป็นฐานที่จะนำชิ้นส่วนต่างๆ มาประกอบรวมไว้ด้วยกันนั้นทำจากทองเหลืองชุบแข็งหนา 5 มิลลิเมตรซึ่งมีความแข็งแรงมาก รูแต่ละรูถูกวางตำแหน่งและเจาะอย่างแม่นยำด้วยเครื่องซีเอ็นซีซึ่งก็ต้องใช้เวลานานกว่าเครื่องเจาะหลายแกนทั่วไปมาก เฟืองแต่ละชิ้นก็ได้รับการขึ้นรูปโดยเฉพาะ เครื่องนาฬิกา Erwin Sattler จึงมีความมั่นคงแข็งแรงและทนทานในระดับสูงสุด อีกทั้งเพื่อป้องกันมิให้ทองเหลืองนั้นทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ ชิ้นส่วนที่ทำจากวัสดุทองเหลืองทุกชิ้นจึงถูกนำไปเคลือบทองอีกด้วย และการใช้แพลเลตที่ทำจากหินโมรา แบริ่งจิวเวล และบอลแบริ่งความเสียดทานต่ำก็ช่วยลดความสึกหรอของชิ้นส่วนต่างๆ ได้อีกทาง ทำให้เครื่องนาฬิกา Erwin Sattler ต้องการแรงขับเคลื่อนในการทำงานเพียงเล็กน้อยและมีอายุการใช้งานยาวนานโดยไม่ต้องการการบำรุงรักษาให้ยุ่งยาก

 

 

ตัวเรือนแสนประณีต

 

เช่นเดียวกับเครื่องและชิ้นส่วนต่างๆ ตัวเรือนของนาฬิกา Erwin Sattler ก็ถูกผลิตขึ้นจากวัสดุที่ดีที่สุดด้วยกระบวนการซึ่งผสมผสานประเพณีและทักษะแห่งช่างไม้แบบดั้งเดิมเข้ากับกรรมวิธีการผลิตสมัยใหม่ ด้วยรูปโฉมตัวเรือนไม้ธรรมชาติแท้ๆ อันงดงามตามสไตล์นาฬิกาโบราณที่มีความมั่นคงแข็งแรงทนทาน ซึ่งต้องใช้เวลาในการผลิตมากเช่นกัน โดยพื้นผิวไม้จะต้องผ่านกระบวนการเคลือบเงาถึง 13 ชั้นด้วยกัน โดยระหว่างงานเคลือบนั้นพื้นผิวจะต้องถูกขัดด้วยมือในทุกๆ ชั้นที่ได้รับการเคลือบด้วย จึงทำให้ต้องใช้เวลาสำหรับการขัดเงาถึง 14 วันด้วยกัน จึงได้พื้นผิวเรียบลื่นเป็นเงาวาวที่มากับความทนทานเหนือกาลเวลา

 

พร้อมหรือยังครับที่จะมอบบรรยากาศย้อนสมัยให้กับห้องของคุณให้เข้าไปอยู่ในยุคที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ยังไม่มีความสำคัญกับชีวิตด้วยนาฬิกาจักรกลสุดคลาสสิกล้ำคุณค่าอันเป็นตัวแทนของวัฒนธรรมเก่าแก่แขนงสำคัญแห่งมนุษยชาติที่พร้อมส่งมอบต่อความประทับใจและเรื่องราวให้กับทายาทรุ่นต่อไปของคุณ

 

 

ตัวอย่างผลงานนาฬิการูปแบบต่างๆ ของ Erwin Sattler

 

 

2005060310255402 ClassicaSecunda19951SClassica K100 EibeS

 

contentgo trilogie 000 max1Serwinsattler item image02STempusMobile A SsS

 

 

ชุดประกอบนาฬิกาแขวนผนังแบบเพนดูลัม Erwin Sattler, Mechanica M 1

 

ถ้าคุณเคยมีคำถามในใจว่า กลไกของนาฬิกาทำงานอย่างไร ชิ้นส่วนแต่ละชิ้นเรียกว่าอะไรและทำหน้าที่อย่างไร ไปจนถึงอยากประกอบนาฬิกาจักรกลด้วยตนเอง ทาง Erwin Sattler ก็ได้ออกชุดประกอบนาฬิกาแขวนผนังแบบเพนดูลัมที่มาเป็นเซ็ทชิ้นส่วนพร้อมวิธีทำให้คุณได้ประกอบแต่ละชิ้นส่วนเริ่มตั้งแต่เฟืองซึ่งเป็นส่วนประกอบของกลไกไปจนสำเร็จเสร็จสิ้นพร้อมแขวนผนังประดับบ้านมาให้คุณสามารถเรียนรู้และภาคภูมิใจกับผลงานของตัวเองได้ ด้วยชุดนาฬิกาพร้อมประกอบจาก Erwin Sattler ที่มีชื่อว่า Mechanica M 1

 

Mechanica M 1 เป็นนาฬิกาแขวนผนังแบบเพนดูลัมที่มีกลไกการทำงานลักษณะคล้ายกับนาฬิกาข้อมือจักรกลซึ่งมีความแตกต่างจากนาฬิกาแขวนผนังทั่วไป ถึงแม้ว่าทาง Erwin Sattler จะทำออกมาเป็นชุดคิทให้ผู้ซื้อสามารถเรียนรู้ที่จะประกอบได้ด้วยตนเองก็ตาม ชิ้นส่วนแต่ละชิ้น อาทิ เฟืองขัดเงาเคลือบทอง พิเนียนสตีลชุบแข็ง เพลทเครื่องอลูมิเนียมอโนไดซ์ เข็มบลูด์สตีล หน้าปัดอลูมิเนียมอโนไดซ์ จนถึงตัวเรือนไม้คุณภาพสูง ก็ได้ถูกผลิตตามมาตรฐานสูงสุดอันพิถีพิถันของ Erwin Sattler ทุกประการ โดยมาพร้อมกับคู่มือการประกอบเครื่องมือที่ต้องใช้ และน้ำมันให้คุณลงมือเคลือบเงาตัวเรือนไม้ด้วยตัวคุณเอง และส่วนประกอบชิ้นเล็กๆ อีกชิ้นที่ไม่ได้มีผลต่อการทำงานของนาฬิกาแต่มีคุณค่าทางจิตใจเป็นอย่างยิ่งก็คือ เพลทระบุชื่อผู้ประกอบซึ่งสามารถขอให้ Erwin Sattler ระบุชื่อของคุณลงไปได้ซึ่งสามารถนำมาติดตั้งบนนาฬิกาของคุณได้หากสั่งจองโดยตรงกับทางโรงงาน 

IMG 00011

 Mechanica M1

 

IMG 0003

 

IMG 0002Clear

 

ข้อมูลทางเทคนิค

- เพลททำจากอลูมิเนียมอโนไดซ์หนา 4 มิลลิเมตร 
- มีบอลแบริ่งติดตั้งพร้อมอยู่บนแท่งเกียร์เทรน 
- พิเนียนทำจากสตีลชุบแข็ง 
- เฟืองขัดเงาเคลือบทอง 
- กลไกแกรห์มเอสเคปเม้นท์พร้อมแพลเลตสตีลชุบแข็งที่สามารถปรับตั้งได้ 
- หน้าปัดอลูมิเนียมอโนไดซ์ 
- เข็มบลูด์สตีล 
- ขึ้นลานเดือนละครั้ง 
- มีความเที่ยงตรงสูงในระดับ +/- 3-4 วินาทีต่อเดือน 
- ไดรฟ์วิ่งเวททำจากทังสเตนตันน้ำหนัก 3,000 กรัม (รวมลูกรอก) 
- คันเหวี่ยงทำจากอินเวอร์ 
- ตัวตุ้มเหวี่ยงทำจากสตีล 
- ตัวเรือนทำจากไม้ สามารถกันฝุ่นได้ ขนาดสูง 40 นิ้ว กว้าง 10.6 นิ้ว หนา 5.7 นิ้ว

ข้อมูลเพิ่มเติมที่ http://www.erwinsattler.de

 

 

By: Viracharn T.