CASIO G-SHOCK นำทัพสุดยอดนาฬิกาที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่สู่ประเทศไทย

 

CASIO G-SHOCK นำทัพนาฬิกาตั้งแต่ G-STEEL x CORDURA นาฬิกาคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดในตระกูล G-STEEL อันแข็งแกร่งที่ผสมผสานความเป็นสตรีทแวร์และความเรียบหรูเข้ากันได้อย่างลงตัว ภายใต้นิยาม G-STEEL : From Suit To Street, When Style Meets Function ด้วยรูปลักษณ์ที่เหมาะสมกับการใช้งานในทุกโอกาสชีวิต ไม่ว่าจะเป็นวันสบายๆ วันที่ต้องลุยงานหนัก หรือวันที่ต้องสวมใส่สูทไปงานเลี้ยงสุดหรู

 

G STEEL x CORDURA collection

นาฬิกาคอลเลคชั่น G-STEEL x CORDURA

 

G-STEEL x CORDURA โดดเด่นด้วยดีไซน์อันทรงเอกลักษณ์ พร้อมโครงสร้างสายนาฬิกาที่ผสานวัสดุ 3 ชนิดเข้าด้วยกัน โดยประกอบด้วยชั้นใน ทัฟ เลเธอร์ (Tough Leather)​ ชั้นกลาง เรซิ่น (Resin) และชั้นนอกสุดยอดนวัตกรรมผ้าคอร์ดูรา (Cordura®) ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่  G-SHOCK ได้นำเทคโนโลยีผ้าพิเศษนี้มาใช้กับ G-STEEL เพื่อเพิ่มความสวยงามและเสริมในเรื่องของความแข็งแรงทนทานที่เหนือกว่า โดยผ้าคอร์ดูรามีความแข็งแรงทนทานกว่าผ้าปกติถึง 3 เท่า และถูกนำไปใช้ในหลายๆ ผลิตภัณฑ์ เช่น กระเป๋า รองเท้า เครื่องแต่งกายทหาร และกระเป๋าใส่กระสุน ที่สำคัญ ผ้าคอร์ดูรามีความทนทานต่อการถลอก รอยขูดขีด การฉีกขาด และยังสามารถป้องกันการดูดซึมของน้ำและเหงื่อเพื่อปกป้องความอับชื้นที่เป็นปัญหาหลักของนาฬิกาสายผ้าอีกด้วย

 

wrVvIFuQ

 

นอกจากสายนาฬิกาคอร์ดูราที่แข็งแรงและทนทานแล้ว G-STEEL x CORDURA ยังมาพร้อมกับ ขอบตัวเรือนสตีล ระบบพลังงาน ทัฟ โซลาร์ (Tough Solar) ซึ่งชาร์จพลังงานด้วยแสงอาทิตย์ ไฟฟลูออเรสเซนต์และแหล่งพลังงานแสงอื่นๆ รวมถึงความสามารถในการกันน้ำได้ถึง 200 เมตร และ ระบบ Mobile Link เพื่อการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนแบบไร้สายผ่านระบบ Bluetooth® ซึ่งตอบสนองทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน ไม่ว่าจะใช้ในการลุยน้ำ เล่นกีฬา ไปเที่ยวหรือทำงาน ครบทุกไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่ไม่หยุดนิ่งได้เป็นอย่างดี

   

ทั้งนี้ G-STEEL x CORDURA มีให้เลือกถึง 4 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ GST-S130BC-1A สายสีดำกรอบสีดำเคลือบแบ็คไอพี, GST-S130BC-1A3 สายสีเขียวมิลิทารี่ กรอบสีดำเคลือบแบ็คไอพี และ GST-S130C-1A สายสีดำกรอบสีเงินในขนาดปกติ (Standard Fit) และ GST-S330C-1A สายสีดำกรอบสีเงินในขนาดกลาง (Asian Fit)

 

3uGE6dCA

 

อีกหนึ่งรุ่นในกลุ่มพรีเมี่ยมที่น่าจับตามองคือ รุ่น MTG-B1000 จากซีรี่ส์ MTG (Metal Twisted G-Shock) ด้วยวัสดุผสมผสานระหว่างโลหะและเรซิ่น ที่มีขนาดตัวเรือนกระชับข้อมือ เสริมด้วยโครงสร้าง TRIPLE G RESIST ซึ่งทนทานต่อแรงกระแทก แรงเหวี่ยง และแรงสั่นสะเทือน พร้อมกระจกแซฟไฟร์เคลือบสารกันแสงสะท้อน ระบบไฟแบบ LED ความสว่างสูง แสดงเวลาโลก นาฬิกาจับเวลา และมีระบบการชาร์จด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ทัฟ โซลาร์ แบบทนทานดั้งเดิมของ CASIO

  

นอกจากนี้ MTG-B1000 ยังมาพร้อมกับ Connected Engine ใหม่ เพื่อความแม่นยำของเวลาที่มากยิ่งขึ้น พร้อมฟังก์ชั่นการสื่อสารด้วย Bluetooth® ทำให้เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนที่ใช้แอพพลิเคชั่น G-SHOCK Connected ได้อย่างง่ายดาย เสริมด้วยฟังก์ชั่น Multiband 6 ซึ่งควบคุมด้วยคลื่นวิทยุ เพื่อปรับเทียบมาตรฐานเวลา เพื่อความแม่นยำในทุกสถานการณ์

MTG B1000 1A 

 

G-SHOCK MTG-B1000

 

และนาฬิกาไฮไลท์รุ่นสุดท้ายที่นำมาเปิดตัวคือ G-SHOCK RANGEMAN GPR-B1000 รุ่นใหม่ล่าสุด ด้วยวัฒนาการความแข็งแกร่งทนทานขั้นล่าสุดของ G-SHOCK และอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของนาฬิกาในซีรี่ส์ Master of G ที่ออกแบบเพื่อการใช้งานในทุกสภาวะการณ์อันแสนเลวร้าย โดยสามารถป้องกันฝุ่นผง สิ่งสกปรก โคลน และต้านทานอุณหภูมิได้ต่ำสุดถึง -20 องศาเซลเซียส ด้วยสายนาฬิกาชนิดเสริมคาร์บอนไฟเบอร์ และกระจกแซฟไฟร์คริสตัล

 

นาฬิกา RANGEMAN มาพร้อมกับ ทริปเปิ้ล เซ็นเซอร์ ระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับ 3 ชนิด ซึ่งทำให้สามารถตรวจวัดทิศ ความกดอากาศ/ระดับความสูง และอุณหภูมิได้ โดยสร้างขึ้นบนพื้นฐานแนวคิด “ความทนทานเพื่อความอยู่รอด” นอกจากนี้ นาฬิการุ่นใหม่ GPR-B1000 ยังมาพร้อมกับสัญญาณบลูทูธเพื่อเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน และระบบการนำทางด้วย จีพีเอส (GPS) ที่นำแสงอาทิตย์มาใช้เป็นพลังงานเสริมเป็นครั้งแรกของโลก พร้อมการบันทึกข้อมูล “แทร็ก” แนวเส้นทางที่เดินทางจริงและ “พ๊อยท์” เพื่อระบุตำแหน่งภูมิประเทศ ณ จุดที่อยู่ (รวมไปถึง ลองจิจูด (ตำแหน่งเส้นแวง) / ละติจูด (ตำแหน่งเส้นรุ้ง), อัลติจูด (ระดับความสูง) และอุณหภูมิ) ไว้ในหน่วยความจำได้อีกด้วย

 

Untitled 13

 G-SHOCK RANGEMAN GPR-B1000

 

Untitled 2