ULYSSE NARDIN Diver X Skeleton

หลังจากที่นาฬิการุ่น Diver X Skeleton แบบโทนสีน้ำเงินซึ่งจำหน่ายหมด ในเวลาอันรวดเร็วหลังการเปิดตัวในช่วงปี 2021 ULYSSE NARDIN จึงมีการเปิดตัวนาฬิการุ่นนี้อีกครั้ง ในแบบการผลิตจำนวนจำกัดเพียง 175 เรือนพร้อมเสน่ห์แห่งสีดำคาร์โบเนียม (Carbonium®) และตัวเลือกอันโดดเด่นของสายยางสีเหลืองสดใส รวมไปถึงสายอาร์-แสตรป (R-Strap) สีดำที่ผลิตขึ้นจากอวนจับปลาที่ผ่านกระบวนการอัพไซเคิล 

 

Screen Shot 2566 11 09 at 02.44.40
 
โดย Diver X ยังคงรักษาไว้ซึ่งความน่าสนใจ และแรงดึงดูดใจแห่งสไตล์สปอร์ต ขณะเดียวกันก็พร้อมก้าวอย่างอาจหาญสู่ความพิเศษ ในฐานะนาฬิกาฮีโร่รุ่นใหม่ของคอลเลคชั่น Diver จากการที่ผลงานรุ่น Diver X Skeleton นี้ถือเป็นการหลอมรวมการแสดงออก อันโดดเด่นของงานออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ ที่มาจากความก้าวหน้าทางเทคนิคของนาฬิกาในคอลเลคชั่น Blast จึงถือเป็นการผสมผสานกันได้อย่างลงตัว

Screen Shot 2566 11 09 at 02.45.59

 

ของความทรงพลังด้านความงดงาม และกลไกการทำงานอันเยี่ยมยอด ที่ออกแบบมาเพื่อให้มีความทนทาน ต่อแรงกดอากาศที่เกิดขึ้นได้ภายใต้ระดับความลึก 200 เมตร และติดตั้งด้วยขอบเบเซิลที่ปรับหมุนได้ในทิศทางเดียว ในแบบเว้าที่ผลิตขึ้นจากคาร์โบเนียมสีดำ อันรวมไปถึงกระจกแซฟไฟร์ที่โค้งเป็นทรงโดม พร้อมการออกแบบใหม่ทั้งหมดเพื่อให้สามารถใช้กลไกอัตโนมัติอินเฮ้าส์ UN-371

 

Screen Shot 2566 11 09 at 02.52.07

 

ที่สามารถมองเห็นได้ผ่านตัวเรือนขนาด 44 มิลลิเมตร ซึ่งเคยใช้กับนาฬิการุ่น Blast Skeleton ที่ได้รับการพัฒนาพร้อมทั้งเพิ่มเติมในส่วนของโรเตอร์ขึ้นลานรูปทรง “X” อันเป็นไอคอนิกของแบรนด์ และยังรวมไปถึงฝาของตลับลานซึ่งอยู่ ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกา เช่นเดียวกับวัสดุบนขอบเบเซิลที่ผลิตขึ้นจากคาร์โบเนียมสีดำ ขณะที่เข็มพร้อมทั้งมาร์กเกอร์ล้วนเคลือบด้วยสารเรืองแสงซูเปอร์-ลูมิโนวา® ในสีขาวหรือสีเหลือง 

 

Screen Shot 2566 11 09 at 03.33.49

 

ด้วยความต้องการที่จะรักษาไว้ซึ่งหน้าปัด แบบอินเตอร์เฟสภายใต้รูปทรง “X” ที่ถือเป็นหนึ่งในความพยายามและการพัฒนาทางเทคนิค อันซับซ้อนสูงสุดเท่าที่เคยสร้างสรรค์โดย ULYSSE NARDIN และทำให้มาร์กเกอร์ทั้งหมดจำเป็นต้องซ่อนจุดเชื่อมต่อ เข้ากับหน้าปัดเพื่อให้เสมือนกำลังลอยอยู่ ซึ่งเพื่อให้บรรลุถึงสัมผัสแห่งมิติอันลุ่มลึกนี้ จึงใช้วิธีการจัดวางชั้นต่างๆ ซ้อนกัน เพื่อย้ำถึงโครงสร้างแบบเล่นระดับของสัญลักษณ์ “X”

 

Screen Shot 2566 11 09 at 03.34.05

 

และด้วยระดับที่แตกต่างกันของงานตกแต่ง ที่นำมาใช้ผสมผสานกันนี้ยังได้กลายเป็นมิติของการเล่นกับแสง พร้อมขยายความโดดเด่นให้ยิ่งขึ้น โดยความเปลือยโปร่งของชุดกลไกแบบสเกเลตัน ในขณะที่ตัวเรือนที่ผ่านการตกแต่งแบบแซนด์บลาสท์ที่ด้านข้าง พร้อมทั้งหูตัวเรือนที่เชื่อมกับสายจะขัดแต่งแบบซาติน และผ่านการเคลือบด้วยเทคนิคดีแอลซีในโทนสีดำ

 

Screen Shot 2566 11 09 at 03.33.39

 

พร้อมการตัดด้วยรายละเอียด ในโทนสีเหลืองทั้งมาร์กเกอร์แสดงเวลาชั่วโมง และเส้นสายด้านในของสัญลักษณ์ “X” แห่ง ULYSSE NARDIN ซึ่งเสริมทั้งความโดดเด่นของสีสันอันสดใสสะกดสายตา และยังตอกย้ำถึงต้นกำเนิดแห่งสไตล์สปอร์ตของนาฬิการุ่นนี้ นอกจากนี้ขอบเบเซิลยังเลือกใช้วัสดุคาร์โบเนียมสีดำ ที่เป็นวัสดุที่ริเริ่มใช้มาแล้วบนนาฬิการุ่น Freak X จากการที่คาร์โบเนียมเป็นวัสดุคุณสมบัติเฉพาะแห่งการบินอวกาศ

 

Screen Shot 2566 11 09 at 03.36.24

 

ที่มีน้ำหนักเบาอย่างมาก และนับเป็นหนึ่งในวัสดุที่มีความแข็งแกร่ง พร้อมความทนทานสูงที่สุดเท่าที่เคยพัฒนา และสร้างสรรค์มาโดยเหล่านักวิทยาศาสตร์ จากการผลิตขึ้นจากไฟเบอร์ชนิดต่างๆ ซึ่งเป็นแบบเดียวกันกับที่ใช้สำหรับ ผลิตลำตัวและปีกของเครื่องบิน รวมไปถึงกระบวนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับการใช้วัสดุ “เหลือใช้” จึงมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่น้อยกว่าคาร์บอนอื่นๆ ถึง 40%

Screen Shot 2566 11 09 at 02.48.55

วัสดุสมรรถนะสูงนี้จึงได้ถูกสร้างสรรค์ขึ้น ผ่านกระบวนการผลิตอันซับซ้อนที่เกี่ยวกับ การนำคาร์บอนไฟเบอร์ซึ่งมีขนาดเพียง 7 ไมครอน มาผลิตภายใต้สภาวะแรงกดอากาศและอุณหภูมิสูง ซึ่งกระบวนการนี้จะทำให้ไฟเบอร์ต่างๆ สร้างรูปเป็นลวดลายที่มีเอกลักษณ์ เฉพาะตัวในนาฬิกาแต่ละเรือน โดยนาฬิกา ULYSSE NARDIN รุ่น Diver X Skeleton นี้จะมีราคาจำหน่ายในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่ 24,500 สวิสฟรังก์