TAG Heuer Aquaracer Professional 300 GMT

TAG Heuer เปิดตัวนาฬิการุ่น Aquaracer Professional 300 GMT ในรูปลักษณ์ใหม่ของนาฬิกาสุดหรูที่ออกแบบมาให้ล้ำหน้ากว่าใครในทุกที่และทุกเวลา ด้วยฟังก์ชันจีเอ็มทีและการออกแบบที่ดูสะอาดตาในหลากสีสัน ทั้งกลางวันและกลางคืน พร้อมสไตล์และความทนทานที่พร้อมสำหรับการผจญภัยทุกเวลา โดยนอกจากรูปลักษณ์ที่สะท้อนถึงความมั่นใจและแข็งแกร่งแล้ว อีกหนึ่งในความโดดเด่นที่สุดก็คือพาเลทสีมากมายทั้ง สีฟ้า สีเหลือง และสีขาวที่มีสไตล์ จากนักออกแบบของ TAG Heuer ที่ได้นำเสนอเฉดสีที่ดูสบายตา เพื่อเป็นตัวแทนของท้องฟ้า ดวงอาทิตย์ น้ำ และเกลียวคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งมาใช้ โดยสีสันเหล่านี้ยังทำให้นาฬิกากลายเป็นเพื่อนร่วมทางที่สมบูรณ์ แบบของเหล่านักเล่นเซิร์ฟและนักดำน้ำ รวมถึงนักเดินทางท่องโลกเพื่อค้นหาสถานที่พักผ่อนที่สมบูรณ์แบบ และโลกใต้ผิวน้ำที่งดงามที่สุด

 

Screen Shot 2565 09 14 at 01.59.28

 

หน้าปัดดีไซน์หรูหราที่มีลักษณะเฉพาะกับเส้นแนวนอนอันเป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมสีน้ำเงินเข้มดังท้องฟ้าในยามค่ำคืนตัดกับสีขาวสะอาด แสดงเวลาด้วยเข็มวินาทีเคลือบโรเดียมและปลายแล็คเกอร์สีเหลือง ผนวกด้วยเม็ดเรืองแสงที่ออกแบบมา เพื่อให้สามารถทราบค่าเวลาตลอดระหว่างการดำน้ำ โดยมีขอบเบเซิลแบบหมุนได้สองทิศทางในสีทูโทน เคลือบด้วยเซรามิคที่ทนทานต่อการขีดข่วน และเพื่อให้สีไม่ซีดจางพร้อมการแบ่งแยกกลางวันและกลางคืน โดยครึ่งหนึ่งเป็นสีน้ำเงินเข้มซึ่งเป็นตัวแทนของเวลากลางคืนจาก 6 โมงเย็นจนถึง  6 โมงเช้า และอีกครึ่งหนึ่งเป็นสีขาวสว่างแทนเวลากลางวันของ 6 โมงเช้าจนถึง 6 โมงเย็น และเพื่อความชัดเจนสูงสุด มีการสลักตัวเลขแบบ 24 ชั่วโมงลงในชิ้นเซรามิค และแต่งเติมด้วยสีที่ตัดกันกับหน้าปัดโดยสลักสีดำบนหน้าปัดสีขาวสำหรับกลางวัน และสลักสีขาวบนหน้าปัดสีน้ำเงินสำหรับกลางคืน 

Screen Shot 2565 09 14 at 01.57.28

 

เสริมด้วยรายละเอียดอันแสนประณีตทั้งตัวเลข 18 และ 6 ซึ่งอยู่กึ่งกลางตรงจุดที่หน้าปัดเซรามิกสีน้ำเงินและสีขาวมาบรรจบกัน แต่การสลับสียังดำเนินต่อไปอย่างไร้รอยต่อบนตัวเลขทั้งสองนอกจากนี้เข็มแสดงเวลาจีเอ็มทีนาฬิกา และเม็ดมะยมยังเคลือบด้วยแล็คเกอร์สีเหลือง พร้อมการแต่งแต้มช่วงปลายด้วยวัสดุเรืองแสง เพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้ได้ผลลัพธ์ที่ทำให้ชุดเข็มนาฬิกา สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน สำหรับตอบโจทย์นักผจญภัยชาวเมืองที่ต้องการใช้ชีวิต ในเกลียวคลื่นท่ามกลางมหาสมุทร พร้อมคงตัวเรือนรูปลักษณ์เดิมที่โด่งดังในรูปแบบกรอบ 12 ด้านอันเป็นเอกลักษณ์ของนาฬิกาคอลเลคชั่น Aquaracer Professional โดยทุกด้านจะมีขอบเป็นร่องเพื่อให้ผู้สวมใส่ สามารถจับและปรับขอบเบเซิลได้อย่างถนัดมือ โดยเม็ดมะยมยังคงเป็นแบบขันเกลียวพร้อมรับทุกการใช้งาน และตัวเรือนขนาด 43 มิลลิเมตรก็ยังคงกันน้ำได้300 เมตรเช่นเดิม

 

Screen Shot 2565 09 14 at 01.57.03

 

รายละเอียดทั้งหมดเหล่านี้ยังคงสอดคล้อง กับคุณสมบัติอันเป็นเอกลักษณ์ทั้งหกที่เปิดตัวขึ้นครั้งแรกในปี 1980 และจะคงอยู่ตลอดไปใน TAG Heuer Aquaracer ทั้งขอบหน้าปัดหมุนหนึ่งทิศทาง เม็ดมะยมขันเกลียว ความสามารถในการกันน้ำได้อย่างน้อย 200 เมตร เครื่องหมายเรืองแสง กระจกแซฟไฟร์ และชุดล็อคนิรภัยแบบสองชั้น ซึ่งล้วนตอบโจทย์การใช้งานของเหล่านักดำน้ำ นักเล่นกระดานโต้คลื่น และนักผจญภัย พร้อมอัตลักษณ์สำคัญนั่นก็คือ ฝาด้านหลังนาฬิกาสตีลที่ตกแต่งด้วยลวดลายหกเหลี่ยม รวมถึงลายนักประดาน้ำอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรกกับ TAG Heuer Aquaracer ในปี 2004 ที่กลายเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงรายละเอียด อันแสนประณีตของนาฬิกาในคอลเลคชั่น TAG Heuer Aquaracer Professional พร้อมคงความเที่ยงตรงอยู่เสมอ

 

Screen Shot 2565 09 14 at 01.57.15

 

นาฬิการุ่นใหม่ล่าสุดนี้ยังให้สองลุคที่แตกต่างด้วยสายสองรูปแบบ ทั้งสายแบบสตีลหรือสายยางสีน้ำเงินเข้ม เพื่อให้เข้ากับหน้าปัดและขอบเบเซิล โดยทั้งสองแบบจะมีคุณสมบัติตามหลักสรีรศาสตร์ของ เพื่อให้นาฬิกาสามารถใส่ได้พอดีกับชุดดำน้ำ และเพื่อความสะดวกสบายในการสวมใส่ อีกทั้งยังสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นหรือลดลง โดยนักออกแบบนาฬิกาได้เดินตามปณิธานของ Jack Heuer เพื่อให้แน่ใจได้ว่านาฬิการุ่นนี้ จะสามารถมองเห็นและใช้งานได้อย่างชัดเจนสูงสุดในตลอดเวลา พร้อมการทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ 7 GMT Automatic ที่สามารถให้พลังสำรองลานได้นานถึง 50 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีหน้าต่างวันที่ พร้อมการติดตั้งเลนส์ขยายบนกระจก ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกาเพื่อความชัดเจนในการอ่านค่าวันที่ในทุกมุมมองเช่นกัน

 

Screen Shot 2565 09 14 at 02.00.03

 

Screen Shot 2565 09 14 at 02.00.36