SEIKO 5 Sports ขยายขอบเขตของเรือนเวลาด้วยฟังก์ชั่นจีเอ็มที

นับตั้งแต่การนำเสนอเป็นครั้งแรกในปี 1968 คอลเลคชั่นนาฬิกากลไกของ SEIKO 5 Sports ก็มีความหมายเหมือนกับความทนทานและความน่าเชื่อถือได้ในทันที ดังนั้นเมื่อปี 2019 ที่นาฬิกาคอลเลคชั่นนี้ได้รับการนำเสนอสูตตลาดอีกครั้ง พร้อมความคล่องตัว ความกระฉับกระเฉง และอ่อนเยาว์ที่เพิ่มเติมเข้ามา ก็ยิ่งตอกย้ำให้เข้าใจได้ถึงความพิเศษยิ่งขึ้นของนาฬิการุ่นนี้

 

Screen Shot 2565 06 22 at 10.07.44

 

จนมาถึงวันนี้ที่นาฬิกาคอลเลคชั่น 5 Sports ก้าวไปอีกขั้นพร้อมการเปิดตัวกลไกอินเฮ้าส์จีเอ็มทีเป็นครั้งแรก  โดยเป็นนาฬิกาในซีรี่ส์สามเรือนพร้อมดีไซน์ใหม่ ที่อิงมาจากแพลตฟอร์มของนาฬิกาที่ได้รับการทดสอบและไว้วางใจได้ของกลไกคาลิเบอร์ตระกูล 4R ที่มอบความสะดวกสบายในการสวมใส่ จากการเพิ่มเข็มแสดงเวลาจีเอ็มทีที่ทำให้ตัวเรือน มีความหนากว่านาฬิการุ่นเดิมเพียงแค่ 0.1 มิลลิเมตรเท่านั้น

 

Screen Shot 2565 06 22 at 10.07.49

 

การนำเสนอนาฬิกาในคอลเลคชั่นใหม่ทั้งสามเรือน จะมีเพียงหน้าปัดที่มีสีสันต่างกันทั้ง สีดำ สีฟ้า และสีส้ม เพื่อให้มั่นใจได้ว่านาฬิกาทุกเรือน จะมีความโดดเด่นอย่างชัดเจนในแบบเดียวกัน โดยเข็มแสดงเวลาจีเอ็มทีจะเป็นสีแดงสดในรุ่นหน้าปัดสีดำและสีน้ำเงิน และจะเป็นสีดำสำหรับรุ่นหน้าปัดสีส้ม เช่นเดียวกันกับเข็มแสดงเวลาและมาร์กเกอร์บนหน้าปัดนาฬิกา

 Screen Shot 2565 06 22 at 10.07.56

 

ซึ่งเข็มแสดงเวลาจีเอ็มทีจะมีการเคลือบลูมิไบรท์ที่ใหญ่ เพื่อให้สามารถอ่านค่าได้อย่างชัดเจนแม้ในสภาพแสงน้อย ซึ่งนอกจากความสะดวกสบายระดับสากลของฟังก์ชั่นจีเอ็มทีแล้ว นาฬิกาในซีรี่ส์นี้ยังมีขอบหน้าปัดแบบหมุนได้ในสองโทนสี เพื่อการอ่านค่าและแยกเวลากลางคืน/กลางวันจากกันได้อย่างรวดเร็ว โดยเสกลบนขอบเบเซิลจะผลิตกรุกระจกฮาร์ดเล็กซ์ เพื่อความทนทานระดับสูง

 

1

 

โดยการออกแบบตัวเรือนและหน้าปัด ได้รับแรงบันดาลใจจากนาฬิกาสปอร์ต ที่เป็นที่ชื่นชอบที่สุดจาก SEIKO ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในหมู่นักสะสมในชื่อ SEIKO SKX Series พร้อมสายแบบห้าแถวที่ถือเป็นดีไซน์ใหม่ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากนาฬิการุ่นดั้งเดิมในซีรี่ส์ SKX ซึ่งข้อแถวกลางจะได้รับการขัดเงาเพื่อสร้างคอนทราสต์ให้กับชุดสาย ทั้งเพื่อความสวยงามและเพื่อความมั่นใจในการสวมใส่

 

2

 

ทำงานด้วยกลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติคาลิเบอร์ 4R34 ที่ 21,600 รอบต่อชั่วโมง ให้พลังสำรองลานนาน 41 ชั่วโมง โดยมีตัวเรือนขนาด 42.5 มิลลิเมตร หนา 13.6 มิลลิเมตร และสายที่ผลิตจากสตีล พร้อมบานพับแบบสามทบกับชุดล็อคเพิ่มความปลอดภัย ผนวกเข้ากับปุ่มปลดล็อค กรุกระจกฮาร์ดเล็กซ์ พร้อมฝาหลังขันเกลียวและสามารถมองเห็นการทำงานของกลไกได้ กับความสามารถในการกันน้ำที่ระดับ 10 บาร์

 

3

 

พร้อมความสามารถในการต้านทานสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่ระดับ 4,800 A/m โดยนาฬิกาทั้งสามเรือนนี้จะเข้าร่วมในคอลเลคชั่นหลักของ SEIKO 5 Sports และจะวางจำหน่ายที่บูติคของนาฬิกา SEIKO รวมถึงร้านค้าปลีกอื่นๆ ทั่วโลกในเดือนกรกฎาคม 2022 กับราคาจำหน่ายโดยประมาณในยุโรปที่ 470 ยูโร

 

 

 Screen Shot 2565 06 22 at 10.31.04