MONTBLANC Watch Portraits by Gregor Törzs

 

เพื่อร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 190 ปีแห่งการกำเนิดเครื่องบันทึกเวลาโครโนกราฟโดย Nicolas Rieussec เมื่อปี 1821 อย่างยิ่งใหญ่ ทาง Montblanc ซึ่งยกย่องบิดาแห่งโครโนกราฟท่านนี้เป็นพิเศษจนถึงกับเปิดไลน์นาฬิกาในชื่อ Nicolas Rieussec ขึ้นมาโดยเฉพาะ จึงได้ร่วมกับ Gregor Törzs (เกรกัวร์ ตอริส) ช่างภาพชาวเยอรมันจากฮัมบวร์ก รังสรรค์ภาพถ่ายพอร์เทรตสุดพิเศษออกมา 3 ภาพด้วยกัน โดยเป็นภาพหน้าปัดและกลไกของนาฬิกา Montblanc Nicolas Rieussec Chronograph และภาพกลไกของนาฬิกา Montblanc Villeret 1858

 

ภาพทั้งสามถูกถ่ายทอดด้วยแสงเงาเข้มทะมึนให้ความหนักแน่นและพิมพ์ลงบนกระดาษ Büttenpaper ทำมือ ซึ่งทำจากฟิล์มกระดาษใยฝ้ายกับส่วนผสมของแพลตินัมอิมัลชั่น ซึ่งเป็นเทคนิคการทำภาพโบราณที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเมื่อเกือบ 200 ปีก่อน อันเป็นช่วงเวลาใกล้เคียงกับเครื่องบันทึกเวลาชิ้นแรกที่ Nicolas Rieussec ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อใช้จับเวลาในการแข่งม้าในกรุงปารีสเมื่อ 190 ปีก่อน Gregor Törzs ได้อธิบายภาพของเขาว่า “ฟันเฟืองเหล่านี้คือหัวใจของนาฬิกา ผลงานชุดนี้ผมอยากจะนำเสนอภาพในแบบที่ต่างออกไปเพื่อที่คนดูจะได้ไม่เพียงแต่เข้าใจถึงความซับซ้อนหรือความสามารถเชิงช่างที่ใช้ในการรังสรรค์ชิ้นงานที่ต้องการทักษะเช่นนี้เท่านั้น แต่ยังสามารถชื่นชมความแตกต่างของยุคสมัยที่มีความสำคัญทางอุตสากรรมระหว่างทศวรรษที่ 1920-1930 และกระบวนการทางภาพถ่ายร่วมกับวิสัยทัศน์ของคนเมื่อเกือบ 200 ปีก่อนได้ด้วย โดยนำมารวมกันไว้บนกระดาษ”

 

เกี่ยวกับ Gregor Törzs: ศิลปินท่านนี้เริ่มงานในสายโฆษณาที่ฮัมบวร์ก บ้านเกิดของเขา ก่อนที่จะย้ายมาลอสแอนเจลิสเพื่อเรียนการถ่ายภาพยนตร์จาก John Dykstra และ Doug Smith เจ้าของรางวัลออสการ์ ถึงที่บริษัท FX House Apogee ต่อมาในปี 1993 เขาได้เป็นผู้อำนวยการถ่ายภาพให้กับ Michel Comte ช่างภาพชื่อดัง และเริ่มมีชื่อเสียงในฐานะช่างภาพในโลกแห่งโฆษณาและแฟชั่น โดยได้ทำงานร่วมกับดาราดังๆ และแบรนด์สินค้าต่างๆ มากมาย ผลงานทางศิลปะที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกก็คือซีรี่ส์ที่ชื่อ “Boy on Safari” และ “Ciel Lourd” ภาพถ่ายต่างๆ ของเขาถูกนำมารวมไว้ในคอลเล็คชั่น Wolfgang Joop’s 2009 fall/winter Wunderkind Collection แล้วพิมพ์ลงบนผ้าซึ่งถูกนำไปใช้ในคอลเล็คชั่นต่างๆ ของเหล่าดีไซน์เนอร์ชาวเยอรมัน และในปี 2010 เขาได้ขยายแนวการถ่ายภาพให้กว้างขึ้นและกลายเป็นผู้ชำนาญในการพิมพ์ด้วยแพลตินัมและยาง พร้อมๆ กับการทำงานถ่ายภาพโดยใช้กล้องไมโครสโคปแบบอนาล็อกขนาดใหญ่ด้วย