Kodo Constant-force Tourbillon by GRAND SEIKO, Part II

ขณะที่เรือนเวลาอันแสนโดดเด่นของ Kodo Constant-force Tourbillon นี้เป็นจุดเริ่มต้นครั้งใหม่สำหรับวิถีการประดิษฐ์เรือนเวลาของ GRAND SEIKO คุณสมบัติแห่งเรือนเวลาที่ใช้งานได้จริงซึ่งเป็นชื่อเสียงอันเลื่องลือของ GRAND SEIKO ที่ยังคงปรากฏอย่างเต็มที่ในทุกรายละเอียด โดยกรงคอนสแตนท์-ฟอร์ซจะมีชิ้นทับทิมติดตั้ง อยู่ที่แขนข้างหนึ่งเพื่อทำหน้าที่เป็นเข็มวินาทีขนาดเล็ก พร้อมฟังก์ชั่นการหยุดการทำงานของกลไก โดยจะหยุดการทำงานของกรงตูร์บิยองเมื่อเม็ดมะยมถูกดึงขึ้น เพื่อให้สามารถปรับตั้งเวลาได้อย่างแม่นยำจนถึงระดับวินาที ส่วนเข็มชั่วโมงก็มีการเจียรเหลี่ยมมุมเพื่อเสริมความชัดเจนที่ส่วนปลาย เพื่อให้สามารถอ่านค่าเวลาได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการกันน้ำได้ถึงระดับ 10 บาร์อีกด้วย

 

Grand Seiko Kodo Constant Force Tourbillon SLGT003 3

 

และด้วยการรวม 2 ชนิดกลไกเข้าไว้ด้วยกันทำให้กลไกคาลิเบอร์ 9ST1 มีที่ว่างภายในตัวเรือนและมีพื้นที่เพียงพอให้แสงทะลุผ่าน ทั้งจากฝั่งด้านหน้าและด้านหลังของตัวเรือน เพื่อเผยให้เห็นความงดงามของงานตกแต่งที่กระทำด้วยมือ ซึ่งด้วยเหตุผลเดียวกันนี้ ความสัมพันธ์อันละเอียดอ่อนของแสงและเงาซึ่งเป็นศูนย์กลางแห่งสุนทรียศาสตร์อันงดงามของนาฬิกาจาก GRAND SEIKO จึงสามารถแสดงออกได้อย่างเต็มที่ผ่านการไล่เฉดสี เหลี่ยมมุม และพื้นผิว โดยส่วนประกอบหลักแต่ละชิ้นจะถูกตกแต่งด้วยมืออย่างประณีต ด้วยเทคนิคที่หลากหลายเพื่อให้ชุดกลไกในภาพรวม มีความสงบนิ่งแต่เต็มไปด้วยประกายอันงดงามซึ่งเป็นลักษณะเด่นของแบรนด์มาโดยตลอด

 

Screen Shot 2565 04 18 at 21.16.01

 

ตัวเรือนสร้างขึ้นจากแพลทตินัมและบริลเลียนท์ฮาร์ดไทเทเนียม ซึ่งเป็นไทเทเนียมชนิดเคลือบแข็งเกรดพิเศษของ GRAND SEIKO เพื่อให้ได้มาซึ่งความงามที่คงทน โดยพื้นที่ต่างๆ บนตัวเรือนซึ่งสร้างขึ้นจากวัสดุทั้งสองชนิดจะได้รับการขัดเงาด้วยเทคนิคซารัทสึ สลับกับการปัดลายเส้นละเอียดแบบแฮร์ไลน์ โดยทั้งสองกระบวนการ จะถูกกระทำด้วยมือของช่างฝีมือทักษะสูง เพื่อให้เกิดความงดงามกลมกลืนในทุกมุมมอง ซึ่งจุดบรรจบของวัสดุตัวเรือนทั้งสองชนิดที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือ ส่วนปลายของขาตัวเรือนอันเป็นตำแหน่งบรรจบของช่องว่างขนาดเล็ก ระหว่างแนวขาของวัสดุทั้งสองซึ่งช่วยเพิ่มความเบา และมอบรูปลักษณ์เฉพาะตัวให้กับดีไซน์ของนาฬิกาในภาพรวม

 

 

 

Screen Shot 2565 04 12 at 00.26.15

 

 

 

โดยความเชี่ยวชาญในการขัดเงาด้วยมือของ GRAND SEIKO เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาคนทั้งโลกมาโดยตลอด และสำหรับนาฬิการุ่นนี้จะเป็นความกลมกลืนโดยสมบูรณ์ของพื้นผิวแพลทตินัมและบริลเลียนท์ฮาร์ดไทเทเนียม โดยเรือนเวลารุ่นนี้จะมาพร้อมกับสายหนังลูกวัว ที่สร้างขึ้นด้วยกรรมวิธีเก่าแก่เช่นเดียวกับที่เคยใช้สร้างวัสดุความทนทานสูง ซึ่งครั้งหนึ่งเคยใช้ในชุดเกราะของซามูไร โดยพื้นผิวของสายจะถูกทาแลคเกอร์อุรุชิด้วยมือ ในกระบวนการเคลือบหลายชั้นเพื่อสร้างความเงางามให้กับสาย พร้อมมอบความแข็งแกร่งและทนทานให้กับสายในแบบเดียวกันกับเกราะซามูไร นอกจากนี้ยังมอบสายหนังจระเข้มาให้พร้อมกันอีกเส้นชุด เพื่อสลับเปลี่ยนสำหรับการใช้งานในแต่ละวันอีกด้วย

 

223 20220330 1 img02

 

เรือนเวลารุ่นนี้ได้รับการออกแบบโดยกลุ่มนักประดิษฐ์นาฬิกาและนักออกแบบชั้นนำของGRAND SEIKO ผู้ที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสตูดิโอแห่งใหม่ อาเตอลิเยร์กินซ่า ซึ่งตั้งอยู่ในย่านกินซ่าของกรุงโตเกียว ที่ซึ่ง Kintaro Hattori เริ่มต้นธุรกิจของเขาในปี 1881 โดยเป้าประสงค์ของสตูดิโอแห่งนี้ก็คือ เพื่อสร้างนาฬิกาที่มีลักษณะเฉพาะตัว ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Kintaro ที่ว่าบริษัทของเขาควรมุ่งมั่นในการสร้างเรือนเวลาที่ดีที่สุดในโลกอยู่เสมอ ซึ่งการสร้างสรรค์ GRAND SEIKO Kodo Constant-force Tourbillon และการก่อตั้ง อาเตอลิเยร์กินซ่า คือการประกาศอย่างกึกก้องว่านาฬิกา GRAND SEIKO ได้สร้างเวทีแห่งใหม่ที่จะใช้สร้างอนาคตของตัวเองขึ้นมาแล้ว

 

Screen Shot 2565 04 18 at 21.48.46

 

GRAND SEIKO Kodo Constant-force Tourbillon, Ref. SLGT003 ทำงานด้วยกลไกไขลานคาลิเบอร์ 9ST1 ที่ระดับความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมงหรือ 8 บีทต่อวินาที พร้อมความเที่ยงตรงในระดับ +5 ถึง -3 วินาทีต่อวัน เมื่ออยู่กับที่ในเวลา 48 ชั่วโมง ให้พลังสำรองลานนาน 72 ชั่วโมง โดยกลไกคอนสแตนท์-ฟอร์ซตูร์บิยอง จะให้แรงคงที่ได้ในระดับ 50 ชั่วโมง ในตัวเรือนแพลทตินัมและบริลเลียนท์ฮาร์ดไทเทเนียมขนาด 43.8 มิลลิเมตร หนา 12.9 มิลลิเมตร กรุกระจกแซพไฟร์ทรงกล่อง เคลือบสารกันการเกิดแสงสะท้อน พร้อมฝาหลังกรุกระจกใส กันน้ำระดับ10 บาร์ และต้านทานสนามแม่เหล็กในระดับ 4,800 แอมแปร์/เมตร ใช้งานคู่กันกับสายหนังลูกวัวพร้อมชุดล็อคแพลทตินัมแบบ 3 ทบและปลดล็อคด้วยปุ่มกด พร้อมกับสายหนังจระเข้แบบ 2 ด้านอีก 1 เส้น โดยมีราคาจำหน่ายในประเทศไทยที่ 14,560,000 บาท กับการผลิตแบบจำนวนจำกัด 20 เรือนทั่วโลก และจะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนตุลาคม 2022 เป็นต้นไป

 

Grand Seiko Kodo SLGT003G 001